ตำรวจภูธรภาค 5 รวบ! 3 วัยรุ่น ตั้งสำนักงานกลางเมืองเชียงใหม่ หลอกคนไทยส่งไปทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเทศกัมพูชา
โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พิชญา บุญขจร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช. ภ.5, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, พล.ต.ต. ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จับกุม ตำรวจภูธรภาค 5 โดย เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส. ภ.5), เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.5 รวมจับกุม ผู้ต้องหา รวมจำนวน 3 ราย ดังนี้ น.ส.พรนภา ขอสงวนนามสกุล อายุ 28 ปี (ผู้ถูกจับที่ 1), นายพรณรงค์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 31 ปี (ผู้ถูกจับที่ 2) และน.ส.สุดารัตน์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 25 ปี (ผู้ถูกจับที่ 3) พร้อมของกลาง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ all in one พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Apple รุ่น iPhone16ProMax สีครีม,แท็บเล็ตยี่ห้อ Apple รุ่น iPadรุ่นที่10, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ยี่ห้อITSONAS สีดำ พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ, โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Apple รุ่น iPhone13ProMax สีดำ, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ MINI-PC ยี่ห้อ HP รุ่นProDesk สีดำ พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ, โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Apple รุ่น IPhone11 สีเขียว, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO รุ่น A31 สีดำ,เร้าเตอร์WiFi เครือข่าย AIS ยี่ห้อ Huawei สีดำ ในฐานความผิด “ ร่วมกันจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต (มาตรา 30 พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน) ”
ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาให้ทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 5 นั้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ ว่ามีการลักลอบจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในประเทศกัมพูชา ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
จนเจ้าหน้าที่ ศปอส.ภ.5 สืบทราบว่ามีการจัดตั้งสำนักงานตั้งอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอหมายค้น ต่อมาศาลแขวงเชียงใหม่ได้อนุมัติหมายค้น ศาลจังหวัดเชียงใหม่ให้ค้นสถานที่ดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ ศปอส.ภ.5 ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ในต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ผลการตรวจค้นพบ นายพรณรงค์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 31 ปี (ผู้ถูกจับที่ 2) กำลังยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ ศปอส.ภ.5 จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแสดงหมายค้นให้นายพรณรงค์ฯ ดูและอ่านจนเป็นที่พอใจแล้วเจ้าหน้าที่ ศปอส.ภ.5 จึงได้ให้ นายพรณรงค์ ฯ เป็นผู้นำในการตรวจค้นบ้านดังกล่าว ผลการตรวจค้นห้องโถงชั้น 1 ของบ้านดังกล่าว พบ น.ส.พรนภา ขอสงวนนามสกุล อายุ 28 ปี (ผู้ถูกจับที่ 1) และ น.ส.สุดารัตน์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 25 ปี (ผู้ถูกจับที่ 3) กำลังนั่งทำงานอยู่ภายในห้องโถงชั้น 1 ในบ้านดังกล่าว ผู้ถูกจับที่ 1 ให้การรับว่าตนเป็นผู้ใช้งานของกลางลำดับที่ 1-3 ในการทำงาน ผู้ถูกจับที่ 2 ให้การรับว่าตนเป็นผู้ใช้งานของกลางลำดับที่ 4-5 ในการทำงาน ผู้ถูกจับที่ 3 ให้การรับว่าตนเป็นผู้ใช้งานของกลางลำดับที่ 6-8 ในการทำงาน และใช้เร้าเตอร์ WiFi ตามของกลางลำดับที่ 9 ในการทำงานร่วมกัน
ผู้ถูกจับที่ 1-3 ให้การว่าได้ร่วมกันโฆษณาจัดหางานผ่านแอพพลิเคชั่นเฟสบุ๊ค ในกลุ่มหางานต่างๆ ลักษณะงานแอดมิน งานสบายรายได้ดี ลักษณะปิดบังอำพรางงานที่แท้จริง อีกทั้งมีการแปะลิ้งค์ทางเข้าเพื่อพูดคุยเรื่องงานผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ เมื่อมีผู้สนใจก็จะแอดไลน์ จากนั้นผู้ถูกจับที่ 1-3 จะพูดคุยเรื่องการไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา โดยแจ้งกับผู้ที่สนใจว่าเป็นงานเทา มีรายได้ดี มีที่พักฟรี ข้ามประเทศด้วยเส้นทางธรรมชาติ ผู้ถูกจับที่ 1-3 รับว่าได้ใช้บ้านหลังดังกล่าวใน ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เป็นสถานที่จัดหาคนไปทำงานประเทศกัมพูชาจริง และร่วมกันส่งคนไทยไปทำงานที่ประเทศกัมพูชาสำเร็จแล้วจำนวน 2 คน เจ้าหน้าที่ ศปอส.ภ.5 จึงทำการตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีต่อไป.