พระครูอ๊อดซับน้ำตาชาวสวนอมก๋อย หลังราคาพริกตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี – ชาวบ้านจำใจปล่อยผลผลิตยืนต้นตาย
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่บ้านยางเปียงใต้ หมู่ที่ 16 ตำบลยางเปียง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจกลุ่มเกษตรกรชาวสวน ที่กำลังประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำอย่างรุนแรง โดยเฉพาะพริกเขียวและพริกหยวก ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของชุมชนในพื้นที่สูง
พระครูอ๊อดได้ร่วมพูดคุยกับเกษตรกรกลางสวนพริก ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่พริกสุกแดงตกค้างบนต้น ถูกปล่อยทิ้งไร้คนเก็บเกี่ยว เพราะไม่มีแหล่งรับซื้อและราคาตกต่ำอย่างน่าใจหาย บางแปลงขายได้เพียงกิโลกรัมละไม่ถึง 5 บาท ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี พร้อมกันนี้ พระครูอ๊อดยังได้ร่วมเก็บพริกกับชาวบ้าน และนำผลผลิตบางส่วนใส่ไว้ในผ้าจีวร แสดงถึงความห่วงใยและพร้อมยืนเคียงข้างชาวบ้านในยามยาก
“เมื่อราคาผลผลิตตกต่ำ สิ่งที่ตามมาคือการขาดทุนสะสม และหนี้สินของเกษตรกรที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ชาวบ้านจำนวนมากไม่มีทางเลือก ต้องปล่อยผลผลิตทิ้งหรือเก็บเพียงบางส่วน ซึ่งไม่เพียงแต่สูญเสียรายได้ แต่ยังสะท้อนถึงความเปราะบางของระบบเกษตรกรรมในพื้นที่สูง” พระครูอ๊อดกล่าว
จากการสอบถามนางนาดือ ตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์มูเซอในพื้นที่ ทราบว่าปัญหานี้ยืดเยื้อมานานกว่า 2 เดือน โดยเกษตรกรบางรายสามารถเก็บพริกจำหน่ายได้เพียง 4 กระสอบจากทั้งสวน อีกจำนวนมากต้องจำใจปล่อยให้พริกยืนต้นตาย เพราะต้นทุนในการจ้างแรงงานเก็บเกี่ยวและค่าขนส่งสูงเกินรายได้
ขณะเดียวกัน ความทุกข์ใจของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยังไม่ได้จำกัดเพียงปัญหาราคาตกต่ำเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาระหนี้สินที่ทับถม ทั้งจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร รวมถึงหนี้นอกระบบ ซึ่งเกษตรกรหลายรายต้องกู้ยืมมาเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์ปริมาณมาก ปุ๋ย ยาเคมี ค่าน้ำมันเครื่องสูบน้ำ ตลอดจนค่าจ้างแรงงาน และค่าเช่าที่ดินในกรณีที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง เมื่อรายรับไม่เพียงพอต่อรายจ่าย ความหวังจึงแปรเปลี่ยนเป็นความทุกข์ใจลึกในหัวใจของชาวบ้าน ที่ต้องทำการเกษตรท่ามกลางภาระที่แบกรับจนเกินกำลัง
“เราลงแรงทำสวนด้วยความหวังว่าจะเลี้ยงครอบครัวได้ แต่วันนี้แม้จะขายได้ ก็ไม่พอจ่ายดอกเบี้ยที่ต้องส่ง ยอมรับว่าปีนี้ทุกข์ใจมากจากการทำสวน” เกษตรกรกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
พ่อหนานหล้า อมก๋อย ได้เล่าเสริมว่าที่ผ่านมามีกลุ่มเกษตรกรชาวสวนได้ติดต่อขอให้ช่วยกระจายผลผลิตทางการเกษตรไปยังที่ต่างๆ ที่พอติดต่อได้แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะช่วยกระจายผลผลิตทางการเกษตรที่พร้อมเก็บเกี่ยวได้ทันเวลา ไม่เพียงแต่ในอำเภออมก๋อยเท่านั้นแม้แต่อำเภอใกล้เคียงอย่างแม่สะเรียงจังหวัดแม่ฮ่องสอนก็ติดต่อมาขอให้ช่วยเหลือซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน
ท่ามกลางความเงียบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พระครูอ๊อดยังคงเป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวในสายตาของชาวบ้าน โดยท่านได้พยายามช่วยซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในราคาที่สมเหตุสมผล เพื่อนำไปแจกจ่ายในพื้นที่ต่าง ๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมทั้งเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธา ภาครัฐ และภาคเอกชน เข้ามาช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม เพื่อไม่ให้ความทุกข์นี้กลายเป็นวิกฤตที่ไร้ทางออก
ทั้งนี้ พระครูอ๊อดยังเน้นย้ำถึงต้นทุนที่สำคัญที่สุดในการทำเกษตรคือ “สุขภาพของชาวบ้าน” ซึ่งมักต้องเผชิญกับสารเคมีในการดูแลพืชผล และภาวะความเครียดจากการขาดทุน จึงถือเป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วนที่จะต้องมีส่วนร่วมในการคลายทุกข์และส่งเสริมความมั่นคงของเกษตรกรในระยะยาว.