ข่าวภาคเหนือ » (มีคลิป) อบจ.เชียงใหม่ เตรียมบินสำรวจพื้นที่ เพื่อจัดทำเอกสารเสนอขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ

(มีคลิป) อบจ.เชียงใหม่ เตรียมบินสำรวจพื้นที่ เพื่อจัดทำเอกสารเสนอขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ

9 พฤษภาคม 2025
95   0

Social Share

อบจ.เชียงใหม่ เตรียมบินสำรวจพื้นที่ เพื่อจัดทำเอกสารเสนอขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 พระราชวชิรสิทธิ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงวรวิหารฯ, นายบวรเวท รุ่งรุจี ประธานคณะทำงานเร่งรัดการขับเคลื่อนนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่เป็นมรดกโลก, นายศุภฤกษ์ ภาวิไล คณะทำงานเร่งรัดการขับเคลื่อนนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่เป็นมรดกโลก และนายธีรพัฒน์ ตันพิริยะกุล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี 8 แหล่งมรดกวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (อบจ.เชียงใหม่) เดินหน้าโครงการจัดทำเอกสารเสนอขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมของชาติในจังหวัดเชียงใหม่ บริเวณพื้นที่วัดสำคัญ 7 แห่ง วัดเชียงมั่น, วัดอุโมงค์, วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร,วัดสวนดอก, วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร, วัดเจดีย์หลวง, และวัดเจ็ดยอดพร้อมทั้งแนวคูเมือง, กำแพงเมือง, แจ่ง 4 แห่ง, และประตูเมือง 5 แห่ง

โดยเตรียมดำเนินการบินสำรวจพื้นที่ด้วยอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เพื่อเก็บภาพถ่ายมุมสูงเพื่อจัดทำเอกสาร Nomination Dossier ให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดโดยกรมศิลปากรและ องค์การยูเนสโก (UNESCO) ซึ่ง อบจ.เชียงใหม่ ได้รับมอบหมายจากจังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานการบินสำรวจด้วยโดรนจะช่วยให้ได้ภาพมุมสูงที่ครอบคลุมพื้นที่ได้อย่างละเอียด ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการจัดทำเอกสารประกอบการเสนอขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ อบจ.เชียงใหม่ คาดหวังว่าการดำเนินงานในครั้งนี้ จะนำไปสู่การขึ้นทะเบียนพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงใหม่ให้ยั่งยืนต่อไป

การที่เชียงใหม่มุ่งมั่นผลักดัน 8 แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมสู่การเป็นมรดกโลกนั้น เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โอกาสอันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการอนุรักษ์และฟื้นฟูมรดก อันล้ำค่าให้คงอยู่สืบไป การดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาสัมผัสเสน่ห์แห่งล้านนา ซึ่งจะนำมาซึ่ง การเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับชุมชน นอกจากนี้ การได้รับการยกย่องในระดับสากล ยังก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในมรดกของตนเอง และสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ให้แก่คนรุ่นหลัง

แหล่งมรดกโลกเหล่านี้จะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญ และเป็นเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมกับนานาชาติ การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนจะช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และส่งเสริมการพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างรอบด้าน ทั้งการศึกษาสาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดนี้จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของเชียงใหม่ให้เป็นที่ประจักษ์ในสายตาชาวโลกในฐานะเมืองที่มีมรดก ทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าอย่างแท้จริง.