ผู้การเชียงใหม่ สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน คดีตำรวจทำตัวเป็นโจร ก่อเหตุอุ้มรีดเงิน
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 พ.ค.68 พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ดนุพันธุ์ ขว้างไชย ผกก.สภ.ฮอด ได้จับกุมตัวจ่าสิบ อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ในข้อหา “เป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มชื่นใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น , เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหาย แก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ,ร่วมกันเรียกค่าไถ่ ,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ,ร่วมกันกรรโชกทรัพย์” นาย ก นามสมมุติ อายุ 26 ปี ในข้อหา “ สนับสนุนเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลโดยมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ,สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหาย แก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ,ร่วมกันเรียกค่าไถ่ ,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ,ร่วมกันกรรโชกทรัพย์”

สำหรับคดีดังกล่าวเกิดเมื่อเย็นวันที่ 23 พ.ค.
ได้มีชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจบุกจับหนุ่มฮอดวัย 21 ปีที่ขับขี่รถจยย.กำลังกลับจากไปสังสรรค์กับเพื่อนจอดรถแวะฉี่ข้างทางบนถนนสายฮอด-ดอยเต่า โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถปิ๊กอัพมาจอดเทียบแลัลงรถมาสองคน อ้างผู้เสียหายเมาแล้วขับก่อนจะพาเหยื่อขึ้นรถขับวนไปมาบริเวณทะเลสาบดอยเต่าวนไปมาหลายจุดและพูดจาใช้อาวุธปืนข่มขู่จนผู้เสียหายหวาดกลัว ก่อนให้เหยื่อโทรหาญาตินำเงินค่าเคลียร์คดีมาให้ 2 หมื่นบาทพูดคุยต่อรองเกือบ 4 ชั่วโมงก่อนที่จะต่อรองเหลือ 7 พันบาทจึงยอมปล่อยตัวริมถนน

จากการสืบสวนจากกล้องวงจรปิดก็พบคนร้ายคือตำรวจจริงและเพื่อนตำรวจจึงมีการออกหมายจับและจับกุมตัวได้ดังกล่าว

ต่อมาทางพล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้คำสั่ง ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 210/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน มีคำสั่งให้จ่าสิบตำรวจ ออกจากราชการไว้ก่อนแลัวดำเนินการทางวินัยต่อไป.