ชลประทานเชียงใหม่ ต้อนรับ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ติดตามการปรับปรุงฝาย 3 แห่งในแม่น้ำปิงและการบริหารจัดการน้ำ ปตร.ท่าวังตาล ยืนยันเป็นไปตามการบริหารจัดการน้ำในฤดูฝนอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่กระทบต่อการผลิตน้ำประปาและผู้อยู่ท้ายน้ำ
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!
วันที่ 24 ก.ค. 68 นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายกิจพล สิงห์ภักดี หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการชลประทานเชียงใหม่ ให้การต้อนรับ นางสาวศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ , นายไพโรจน์ พลเพชร ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ , นายอัตถพงษ์ฉันทานุมัติ ผู้ทรงคุณวุฒิประจำ กสม. ด้านสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม , นายอรรณพ กันทะวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองสิทธิมนุษยชน สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพื้นที่ภาคเหนือ และนายอาทิตย์ ร่มพนาธรรม นักวิชาการสิทธิมนุษยชนชำนาญการ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพื้นที่ภาคเหนือ เดินทางมาตรวจติดตามการปรับปรุงท้องน้ำในลำน้ำแม่ปิงจากการขุดลอก และการปรับปรุงฝาย 3 แห่ง (ฝายหนองผึ้ง ฝายพญาคำ ฝายท่าวังตาล) รวมทั้งรับฟังการบริหารแนวทางการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำปิงของประตูระบายน้ำท่าวังตาล
นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ ให้ข้อมูลในที่ประชุมว่า แผนการปรับปรุงฝายทั้ง 3 แห่ง เพื่อปรับปรุงท้องน้ำในลำน้ำแม่ปิงนั้น ปัจจุบันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ซึ่งจะทำการขุดลอกแม่น้ำปิงและปรับปรุงฝายทั้ง 3 แห่ง (ฝายหนองผึ้ง ฝายพญาคำ ฝายท่าวังตาล) การดำเนินงานความคืบหน้าในปัจจุบันภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 59.49 สำหรับการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำปิง ก็จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการชลประทานเชียงใหม่ เป็นผู้ควบคุมประตูระบายน้ำท่าวังตาล
ซึ่งปัจจุบันได้มีการเปิดบานประตูระบายน้ำทั้งหมด 6 ช่องบาน เพื่อรองรับมวลน้ำจากพายุ “วิภา” แต่การระบายน้ำดังกล่าว ก็จะเป็นไปตามแผนการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้กระทบกับการผลิตน้ำประปาของเมืองเชียงใหม่ และผู้ที่อยู่ท้ายน้ำ.