ข่าววาไรตี้ » (มีคลิป) เชียงใหม่/สวพส.พลิกวิกฤติ จากหนี้สินสู่หัตถกรรมโกอินเตอร์ วิถีใหม่ของชาวบ้านปางแดงใน

(มีคลิป) เชียงใหม่/สวพส.พลิกวิกฤติ จากหนี้สินสู่หัตถกรรมโกอินเตอร์ วิถีใหม่ของชาวบ้านปางแดงใน

7 สิงหาคม 2025
172   0

เชียงใหม่/สวพส.พลิกวิกฤติ จากหนี้สินสู่หัตถกรรมโกอินเตอร์ วิถีใหม่ของชาวบ้านปางแดงใน

Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!

เชียงใหม่ — ชุมชนบ้านปางแดงใน หมู่ที่ 9 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ กำลังพลิกฟื้นจากวิถีเกษตรเชิงเดี่ยวที่เคยสร้างหนี้สิน สู่การเป็นชุมชนที่สร้างรายได้มหาศาลจากงานหัตถกรรมชนเผ่าที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ภายใต้การสนับสนุนของโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงปางแดง และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (สวพส.)

เดิมทีชาวบ้านปางแดงใน ซึ่งเป็นชาวเผ่าดาราอั้งกว่า 350 ครัวเรือน ต้องพึ่งพาการเกษตรเพียงอย่างเดียว ทำให้หลายครอบครัวมีหนี้สิน แต่หลังจากที่ สวพส. เข้ามาให้ความรู้และส่งเสริมการพัฒนา ชาวบ้านก็ได้นำภูมิปัญญาท้องถิ่นดั้งเดิมมาผสมผสานกับองค์ความรู้ใหม่ สร้างสรรค์งานหัตถกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

หัตถกรรมที่เชื่อมโยงวิถีชีวิตและธรรมชาติ
จุดเด่นของงานหัตถกรรมจากบ้านปางแดงในคือการใช้ สีธรรมชาติ จากพืชพรรณรอบบ้าน เช่น เปลือกไม้ ใบไม้ และผลไม้ อย่างต้นแห้ว เพกา ประดู่ หมามุ่ย หรือแม้แต่ต้นกล้วยและต้นฮ่อม ซึ่งให้สีมากถึง 20 แม่สี และมีเฉดสีให้เลือกถึง 36 เฉด ชาวบ้านร่วมกันปลูกและดูแลป่าอย่างยั่งยืน เพราะรู้ดีว่าป่าคือแหล่งวัตถุดิบสำคัญ ทำให้การทำหัตถกรรมไม่ได้เป็นแค่การสร้างรายได้ แต่ยังเป็นการอนุรักษ์ป่าไม้และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน

นางสาวลักขณา เหียง เยาวชนต้นแบบและนักส่งเสริมและพัฒนาโครงการฯ เล่าถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นว่า “เมื่อก่อนเราทอผ้าใช้กันเอง ไม่ได้คิดว่าจะขายได้ แต่พอทาง สวพส. เข้ามาช่วยอบรมเรื่องการย้อม การออกแบบ และการขายออนไลน์ ตอนนี้เราก็มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ลูกหลานที่เรียนจบก็กลับมาช่วยงานที่บ้านค่ะ มันเป็นความภูมิใจ”
รายได้หลักจากงานหัตถกรรม สร้างโอกาสให้ทุกคนในชุมชน

จากการเป็นเพียงงานอดิเรก งานหัตถกรรมได้กลายเป็นรายได้หลักของชุมชนอย่างรวดเร็ว ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น เสื้อผ้า ผ้าพันคอ กระเป๋า และของใช้ในบ้าน ได้รับความนิยมและส่งออกไปหลายประเทศทั่วโลก สร้างรายได้เสริมที่มีมูลค่าสูงถึง 19 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา

ความสำเร็จนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ชาวบ้านหลุดพ้นจากหนี้สิน แต่ยังสร้างโอกาสให้กับผู้หญิง ผู้สูงอายุ และเยาวชนในชุมชนได้มีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจ โดยไม่ต้องทิ้งบ้านเกิดไปทำงานที่อื่น

งานหัตถกรรมจากบ้านปางแดงใน จึงเป็นมากกว่าสินค้า แต่คือเรื่องราวของความพยายาม ความภาคภูมิใจ และการเติบโตอย่างยั่งยืน ที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของชุมชนบนพื้นที่สูงเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ภายหลังจากนั้น คณะฯ “สพวส” เดินทางไปเยี่ยมชมแปลงเกษตรของ “ลุงชาติ” ผู้พลิกโฉมจากไร่ข้าวโพดสู่สวนเกษตรครบวงจร
จากเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพียงอย่างเดียว และมีรายได้ปีละ 28,000 บาทนายชาติ จันทรา หรือที่ลูกหลาน สวพส. เรียกกันติดปากว่า “ลุงชาติ” ได้พลิกชีวิตตัวเองด้วยการปรับเปลี่ยนระบบการเกษตรใหม่ทั้งหมด จนสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า และกลายเป็นต้นแบบให้แก่เกษตรกรรุ่นใหม่ในชุมชน

ลุงชาติเป็นหนึ่งในเกษตรกรกลุ่มแรกๆ ของโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงปางแดงใน ที่เริ่มต้นด้วยการปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวโพด โดยใช้พืชตระกูลถั่วมาปลูกแซมเพื่อสร้างรายได้เสริม จากนั้นจึงค่อยๆ เปลี่ยนมาปลูกพืชทางเลือกที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และให้ผลตอบแทนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

การปรับเปลี่ยนระบบการเกษตรของลุงชาติมีมากมายหลายอย่าง อาทิการปลูกพืชระยะสั้นโดยได้ทำการปลูกผักในโรงเรือน เช่น เมล่อน และพืชผักอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนตลอดทั้งปี พืชระยะยาวได้ปลูกไม้ผล เช่น องุ่น ลำไย มะม่วง และน้อยหน่า เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงในอนาคตสวยได้ดำเนินการปลูกและทดลองเกษตรผสมผสานมีการเลี้ยงสัตว์ เช่น หมูหลุม ไก่กระดูกดำ และขุดบ่อเลี้ยงปลา รวมถึงปลูกผักสวนครัวเพื่อบริโภคในครัวเรือน

นอกจากนี้ยังได้ประยุกต์ใช้องค์ความรู้จากโครงการหลวงร่วมกับข้อมูลแผนที่ดิน ทำให้การจัดการพื้นที่กว่า 6 ไร่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปปัจจุบัน สวนเกษตรของลุงชาติสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนเฉลี่ยสูงถึง 144,750 บาทต่อปี ไม่เพียงแค่นั้น สวนแห่งนี้ยังได้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรทั้งในและนอกชุมชนเข้ามาศึกษาดูงาน โดยลุงชาติทำหน้าที่เป็นวิทยากรผู้ให้ความรู้ด้วยตัวเอง.