ข่าววาไรตี้ » เขื่อนแม่กวงฯ วาง 3 แนวทาง บริหารจัดการน้ำช่วงมรสุม สิงหาคม-ตุลาคม เคาะ 1 พ.ย. มีน้ำในเขื่อน 82% ใช้สถิติ 2565 เป็นเกณฑ์ในการบริหารจัดการน้ำ

เขื่อนแม่กวงฯ วาง 3 แนวทาง บริหารจัดการน้ำช่วงมรสุม สิงหาคม-ตุลาคม เคาะ 1 พ.ย. มีน้ำในเขื่อน 82% ใช้สถิติ 2565 เป็นเกณฑ์ในการบริหารจัดการน้ำ

16 สิงหาคม 2025
134   0

เขื่อนแม่กวงฯ วาง 3 แนวทาง บริหารจัดการน้ำช่วงมรสุม สิงหาคม-ตุลาคม เคาะ 1 พ.ย. มีน้ำในเขื่อน 82% ใช้สถิติ 2565 เป็นเกณฑ์ในการบริหารจัดการน้ำ เดือนสิงหา 2565 มีน้ำเข้าเขื่อน 70 ล้าน ลบ.ม. ครึ่งเดือนสิงหา 68 น้ำเข้าเขื่อนแค่ 11 ล้าน ลบ.ม. แม่กวงฯ ยังมีช่องว่างรับน้ำได้อีกมาก ณ วันนี้ยังส่งน้ำให้พื้นที่เกษตรกว่า 1.4 แสนไร่ ส่งที่ 9 แสนกว่า ลบ.ม.ต่อวัน สิ้นตุลาคมหยุดส่ง

Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา นายเฉลิมเกียรติ อินทกนก ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่กวงอุดมธารา (ผบค.แม่กวง) แจงถึงสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนแม่กวงฯ ในช่วงมรสุมหรือฝนตกหนักในพื้นที่เชียงใหม่ที่กำลังจะมาถึง ว่า เขื่อนแม่กวงอุดมธาราสร้างขั้นมาเพื่อกั้นแม่น้ำกวงโดยมีพื้นที่รับน้ำฝนประมาณ 569 ตารางกิโลเมตร มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเฉลี่ยต่อปีราว 184 ล้าน ลบ.ม. กรณีของลำน้ำกวงนั้นจะไม่สร้างผลกระทบต่อตัวเมืองเชียงใหม่ ปลายน้ำกวงจะไหลลงรวมกับแม่น้ำปิงที่ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน การบริหารจัดการน้ำจะดูที่สถานีวัดน้ำ P.81 จุดวัดที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และ P.5 จุดวัดน้ำที่ อ.เมืองลำพูน

“สถานการณ์น้ำปัจจุบันของเขื่อนแม่กวงอุดมธารา มีปริมาณน้ำอยู่ราว 163 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 62% ของความจุอ่าง จากการประชุมร่วมกับกรมชลประทาน เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา มีการจำลองสถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 25 แห่ง ทั่วประเทศ ซึ่งเขื่อนแม่กวงเป็น 1 ใน 25 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของประเทศ ได้มีการเลือกจำลองปริมาณน้ำเข้าเขื่อน (Inflow) 3 กรณี กรณีแรกเลือกจากข้อมูล Inflow 20 ปีย้อนหลัง กรณีที่ 2 เลือกจากข้อมูล Inflow สะสมเดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคม 2568 โดยบริหารให้ใกล้เคียงค่าสะสม และกรณีที่ 3 เลือกจากข้อมูล Inflow เดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม บริหารให้ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย” ผคบ.แม่กวงฯ กล่าว

“ในส่วนของเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จะเลือกข้อมูล Inflow ปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่ใกล้เคียงที่สุดของการบริหารจัดการน้ำ โดยมีแผนในการระบายน้ำในเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม รวมกันแล้วจะระบายน้ำออกที่ 117 ล้าน ลบ.ม. เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าเขื่อนในช่วง 3 เดือนนี้ ณ ปัจจุบันมีน้ำไหลเข้าเขื่อนสะสมอยู่ประมาณ 101 ล้าน ลบ.ม. เทียบกับค่าเฉลี่ยแล้วเขื่อนจะรับน้ำอีก 80 ล้าน ลบ.ม. โดยความเห็นของกรมชลประทานก็ไม่ได้กำหนดตายตัวให้เขื่อนแม่กวงฯ ต้องระบายน้ำให้ได้ 117 ล้าน ลบ.ม. กรมชลประทานได้กำหนดให้โครงการฯ สามารถระบายน้ำได้ตามสถานการณ์ ให้ขึ้นกับสถานการณ์น้ำในแต่ละเดือน โดยไม่ให้มีผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำ กล่าวคือ กรมชลประทานมีแนวทางให้แต่ละโครงการส่งน้ำฯ สามารถบริหารจัดการน้ำโดยปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ได้” นายเฉลิมเกียรติฯ กล่าว

ผคบ.แม่กวงฯ กล่าวต่อว่า เขื่อนแม่กวงฯ ใช้วิธีการบริหารจัดการน้ำโดยการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ซึ่งวางไว้ 3 แนวทาง แนวทางแรกคือ พิจารณาจากปริมาณน้ำ Inflow ที่กรมชลประทานแนะนำ โดยปรับแผนการระบายน้ำให้ลดลงอยู่ในเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของเขื่อนในแต่ละช่วงเวลาตลอดทั้ง 3 เดือน (สิงหาคม-ตุลาคม) โดยจะไม่ให้มีผลกระทบกับพื้นที่ท้ายน้ำ แนวทางที่ 2 ทำการประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ท้ายน้ำ ทั้งประชาชน ผู้ใช้น้ำ หน่วยงาน ส่วนราชการต่างๆ ที่อาจได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนแม่กวงฯ และแนวทางที่ 3 มีการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ในแต่ละพื้นที่ติดตามสถานการณ์ฝน จากการคาดการณ์สภาพอากาศของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือเป็นหลักในการบริหารจัดการน้ำร่วมกัน

ทั้งนี้การระบายน้ำของเขื่อนแม่กวงฯ นั้น จะต้องสอดคล้องกับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่าง หรือสอดคล้องกับ Inflow โดยวางไว้ว่า ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 วันเริ่มต้นฤดูหนาวจะมีน้ำเก็บอยู่ในเขื่อนแม่กวงฯ ประมาณ 216 ล้าน ลบ.ม. หรือราว 82% ของความจุ ก็เพื่อจะเก็บน้ำไว้สำหรับการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้งปี 2568/2569 ในพื้นที่กว่า 148,000 ไร่

“ผลจากพายุวิภาที่เกิดช่วงปลายเดือนกรกฎาคม มีการเก็บสถิติไว้ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. 68 วันก่อนที่พายุจะเข้าถึงวันหลังจากที่พายุผ่านไปแล้วและส่งผลในพื้นที่ โดยเก็บสถิติปริมาณน้ำถึงวันที่ 31 ก.ค. 68 พบว่ามีปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 36 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้น้ำในเขื่อนแม่กวงฯ หลังจากใช้ไปในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมาขยับเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และจากแผนการระบายน้ำที่ได้ประชุมร่วมกับกรมชลประทานเขื่อนจะต้องระบายน้ำออกราว 70 ล้าน ลบ.ม. แต่นับจากวันที่ 1-15 สิงหาคม มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนแม่งกวงฯ แค่ 11 ล้าน ลบ.ม. เท่านั้น เมื่อไปดูของปี 2565 เดือนสิงหาคมจะมีน้ำไหลเข้าเขื่อน 70 ล้าน ลบ.ม. หากแต่ขณะนี้ผ่านมาครึ่งเดือนมีน้ำไหลเข้าเขื่อนแค่ 11 ล้าน ลบ.ม. จึงต้องมีการปรับแผนการระบายน้ำออก” ผคบ.แม่กวงฯ กล่าว

นายเฉลิมเกียรติ อินทกนก ผคบ.แม่กวงฯ กล่าวอีกว่า แม้ว่าจะมีการปรับแผนการระบายน้ำ แต่โครงการฯ ยังส่งน้ำให้พื้นการเกษตรในเขตบริการ คลองฝั่งซ้ายส่งที่ 4.5 ลบ.ม. ต่อวินาที คลองสายใหญ่ส่งที่ 5 ลบ.ม.ต่อวินาที และคลองฝั่งขวาส่งที่ 1.2 ลบ.ม.ต่อวินาที รวมแล้วส่งให้กับพื้นที่เกษตรราว 11 ลบ.ม.ต่อวินาที่ หรือ 9 แสนกว่า ลบ.ม.ต่อวัน เพื่อใช้กับนาข้าวราว 95% พืชไร่ บ่อปลา และกิจกรรมเกษตรอื่นๆ อีกเล็กน้อย ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน รวม 5 อำเภอ ซึ่งการส่งน้ำเพื่อการเกษตรจะไปสิ้นสุดที่เดือนตุลาคม

ทั้งนี้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่กวงอุดมธารา ได้วาง Action Plan ที่จะรอรับหรือรับมือในช่วงฤดูฝน 2568 ไว้ ทั้งก่อนฝน อาทิ การตรวจสอบอาคารชลประทาน การตรวจสอบพื้นที่เสี่ยง และเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมาได้ร่วมกันกับหลายภาคส่วน ทำการขุดลอกและกำจัดวัชพืชในลำน้ำกวง ช่วง กม.3+800 ถึง กม.5+000 รวมระยะทาง 1,200 เมตร และคลองส่งน้ำสายใหญ่เกาะมะตัน ช่วง กม.5+500 ถึง กม.6+050 บริเวณฝายลาว ต.หนองแหย่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ระยะทาง 550 เมตร รวมระยะทางดำเนินการทั้งสิ้น 1,750 เมตร ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำอันเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการไว้ก่อนน้ำหลาก ส่วนแผนระหว่างอาทิ การติดตามการคาดการสภาพอากาศ รายงานสถานการณ์น้ำจริง ส่วนแผนหลังฝนได้แก่ การสรุปการบริหารจัดการน้ำ การทำแผนและถอดบทเรียน.