เชียงใหม่ ร้านไส้อั่วชื่อดังทำหน่ออั่วและดอกเพกาอั่ว “ดอกบ่าลิดไม้อั่ว” รับเทศกาลอาหาร
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!
เจ้าของร้านไส้อั่วบ้านอิฐ ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง ประยุกต์นำดอกลิ้นฟ้าสมุนไพรพื้นบ้าน (ดอกบ่าลิดไม้) และหน่อไม้ ที่กำลังออกในช่วงฤดูฝน มาทำเป็นดอกลิ้นฟ้าอั่วและหน่อไม้อั่ว เตรียมจำหน่ายในงานเทศกาลท่องเที่ยวเชิงอาหารพื้นบ้านหรือ ข่วงไส้อั่ว กาดหมั่วดงป่าลัน ที่บ้านดงป่าลัน ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง ซึ่งจะจัดช่วงฤดูหนาวที่จะถึงนี้
นายอนันต์ สิริภาคย์โภคิน เจ้าของร้านไส้อั่วบ้านอิฐ ได้เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของงานเทศกาลท่องเที่ยวเชิงอาหารพื้นบ้านหรือ ข่วงไส้อั่ว กาดหมั่วดงป่าลัน ซึ่งในหมู่บ้านดงป่าลันมีชาวบ้านรวมกลุ่มกันทำไส้อั่วจำหน่าย รวมทั้งหมด 15 ราย แต่ล่ะร้านล้วนแต่เป็นร้านไส้อั่วชื่อดัง ได้รวมตัวกันตั้ง กลุ่มผู้ผลิตไส้อั่วและอาหารพื้นบ้าน บ้านดงป่าลัน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการปรึกษาในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในชุมชน ช่วงฤดูหนาวที่จะถึงนี้ซึ่งภายในการจะมีการจัดทำอาหารพื้นบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำไส้อั่วของแต่ล่ะร้านที่มีรสชาดเป็นเอกลักษณ์ให้นักท่องเที่ยวได้ชิม ซึ่งวัตถุดิบส่วนใหญ่ในการทำไส้อั่วในกลุ่ม เป็นผลผลิตทางการเกษตรในชุมชนที่ทำเกษตรอินทรีย์เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหาร นอกจากนี้ภายในงานทางร้านไส้อั่วบ้านอิฐ จะได้ทำดอกลิ้นฟ้าอั่ว (ดอกบ่าลิดไม้) และหน่ออั่วมาให้นักท่องเที่ยวได้ชิม ซึ่งในวันนี้ได้สาธิตการทำหน่ออั่วและดอกลิ้นฟ้าอั่ว(ดอกเพกา) ดอกบ่าลิดไม้ให้นักท่องเที่ยวได้ชิมก่อน
สำหรับการทำหน่ออั่วเริ่มจากนำหน่อไม้ต้มที่แกะเปลือกแล้วมายัก หรือมาขีดเส้น ให้เป็นเส้นเล็กๆ หลังจากนั้นจึงนำเนื้อหมูที่ปรุงรสเรียบร้อยแล้วยัดเข้าไปในหน่อไม้ ก่อนที่จะใช้ไม้ไผ่กลัดที่หน่อไม้เพื่อให้ไส้ทะลักออกมา หลังจากนั้นจึงนำหน่ออั่วไปย่างไฟเหมือนกับไส้อั่ว ซึ่งหน่อที่ย่างไฟจนสุกแล้ว จะมีกลิ่นหอมจากการย่างไม่เหมือนการนำหน่ออั่วไปทอด และยังมีกลิ่นหอมของสมุนไพร ในนำมาปรุงรสกับเนื้อหมู ส่วนรสชาติของหน่ออั่วจะมีนุ่มเวลาที่เราเคี้ยวถูกหน่อไม้ ขณะรสชาดของไส้ที่เป็นเนื้อหมูก็จัดจ้านตามสูตรของทางร้านเมื่อทานด้วยกันก็จะอร่อยไปอีกแบบหนึ่ง
ส่วนการทำดอกลิ้นฟ้าอั่ว ดอกบ่าลิดไม้อั่ว หลังจากที่นำดอกลิ้นฟ้า ล้างน้ำเสร็จแล้วก็มาผึ่งแดดให้แห้งเพื่อไม่ให้ดอกลิ้นฟ้าเปราะ หลังจากนั้นจึงใช้ช้อนตักเนื้อหมูที่ปรุงรสแล้วใส่ไปตรงกลางดอกฯ แล้วใช้ไม้ไผ่กลัดกลีบดอกเพื่อไม่ให้เนื้อหมูทะลักออกมาเวลานำไปย่าง หลังจากนั้นก็นำไปย่างจนสุก ส่วนรสชาดของดอกลิ้นฟ้าอั่วก็จะออกขม หวานนิดๆ เมื่อทานกับเนื้อหมูที่ปรุงรสก็จะอร่อยและเข้ากัน
นายอนันต์ สิริภาคย์โภคิน เจ้าของร้านไส้อั่วบ้านอิฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับดอกลิ้นฟ้า (ดอกบ่าลิดไม้) ชาวบ้านมักจะนำมาประกอบอาหารเช่น ลวกจิ้มกับน้ำพริก นอกจากนี้ยังนำมายำแบบพื้นบ้าน และนำมาคั่วใส่เนื้อหมูเป็นต้น นอกจากนี้ ยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย บำรุงสายตา ลดคอเลสเตอรอล แก้ไอ ขับเสมหะ เป็นยาระบาย บำรุงโลหิตอีกด้วย ตนจึงนำดอกเพกา มาประยุกต์ทำเป็นไส้อั่วดอกลิ้นฟ้า ให้ลูกค้าได้ชิมและได้รับการตอบรับที่ดี ส่วนหน่ออั่ว ตนได้ประยุกต์มาจากการทำหน่อไม้ยัดไส้ ซึ่งชาวบ้านได้นำหมูบดไปยัดในหน่อแต่จะนำมาทอดในน้ำมัน แต่จะใช้หมูปรุงรสที่ทำไส้อั่วแทนหมูบดแล้วนำไปย่างเหมือนไส้อั่วปรกติ ซึ่งวัตถุดิบทั้งสองอย่าง ทั้งหน่อไม้และดอกลิ้นฟ้า (ดอกบ่าลิดไม้) จะออกพร้อมกันในช่วงนี้พอดีจึงลองนำมาประยุกต์ให้น่าทานขึ้นและเพิ่มมูลค่าของวัตถุดิบอีกด้วย.