ตำรวจ - ทหาร » (มีคลิป) เชียงใหม่-รองผบ.ตร.ร่วมแถลงจับกุมแก๊งวัยรุ่นใช้อาวุธมีดทำร้าย 3 เยาวชนบาดเจ็บ 3 ราย

(มีคลิป) เชียงใหม่-รองผบ.ตร.ร่วมแถลงจับกุมแก๊งวัยรุ่นใช้อาวุธมีดทำร้าย 3 เยาวชนบาดเจ็บ 3 ราย

19 กันยายน 2025
222   0

เชียงใหม่-รองผบ.ตร.ร่วมแถลงจับกุมแก๊งวัยรุ่นใช้อาวุธมีดทำร้าย 3 เยาวชนบาดเจ็บ 3 ราย

Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งวัยรุ่นก่อเหตุใช้มีดฟันนักเรียนได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย เหตุเกิดที่ อ.เมืองเชียงใหม่ ผู้ต้องหารวม 15 คน ถูกควบคุมตัวได้แล้ว ส่วนอีก 1 คนยังคงหลบหนีและอยู่ระหว่างการติดตามตัว

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 23.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง ได้รับแจ้งเหตุวัยรุ่นก่อเหตุทำร้ายร่างกายกันภายในร้านสะดวกซักแห่งหนึ่งใน อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ 3 ราย คือ นายศรัณย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี ถูกมีดฟันที่กลางหลัง, ด.ญ.ณัชชา (สงวนนามสกุล) อายุ 14 ปี ถูกมีดฟันที่มือข้างขวาจนขาด และด.ช.ก้องทวี (สงวนนามสกุล) อายุ 14 ปี ถูกมีดฟันที่มือทั้งสองข้าง

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้เสียหาย 9 คน ได้ไปยืนอยู่ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ จากนั้นได้มีกลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คน ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดพร้อมอาวุธมีดไล่ทำร้าย ทำให้กลุ่มผู้เสียหายวิ่งหนีเข้าไปหลบในร้านสะดวกซัก แต่ก็มีผู้ก่อเหตุคนหนึ่งตามเข้าไปใช้มีดฟันจนมีผู้บาดเจ็บ ก่อนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุจะพากันหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจากที่เกิดเหตุเพื่อติดตามตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งวันที่ 17 กันยายน 2568 เวลา 01.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สารภี ได้ควบคุมตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัย 4 คน ซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องสงสัย พบภาพการรวมตัวของกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ ผู้ต้องสงสัยบางรายยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์จริงแต่ไม่ได้ลงมือทำร้ายใคร เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวเพื่อทำการสืบสวนขยายผลต่อไป

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้เพิ่มอีก 11 คน รวมเป็น 15 คน รวมถึง นายจาย อ้าย หม่อง (Mr.SAI AIK MAUNG) อายุ 24 ปี สัญชาติเมียนมาร์ ซึ่งเป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้มีดฟันด้วย โดยผู้ต้องหาทั้งหมดถูกจับกุมได้ระหว่างวันที่ 17-18 กันยายน 2568

นอกจากนี้ ศาลจังหวัดเชียงใหม่ยังได้ออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 1 ราย คือ นายชาย ลิน (Mr.SAI LIN) อายุ 24 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปทท.ตร.) เปิดเผยว่า สตช.ยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในทุกมิติ เพื่อความเชื่อมั่นในการเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย โดยได้จัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปทท.ตร. (Tourist Safety Operations Center : TSOC) เพื่อขับเคลื่อนให้ตำรวจทุกกองบัญชาการทั่วประเทศ ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวได้อย่างเป็นระบบ สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว ด้วยมาตรการที่รัดกุมในการดูแลรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร โดยมีการเปิดตัวแอปพลิเคชัน Thailand Tourist police พื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลด ส่งข้อความ รูปภาพ และพิกัดสถานที่ เพื่อสอบถามข้อมูล แจ้งเหตุ และขอความช่วยเหลือได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เชื่อมโยงกับศูนย์รับแจ้งเหตุ 1155 ซึ่งมีบริการเจ้าหน้าที่ล่ามแปลภาษา 8 ภาษา ตลอด 24 ชั่วโมง ประสานการทำงานกับศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ในการรับแจ้งเหตุและร่วมกันระงับเหตุ ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และสนับสนุนตำรวจท้องที่ในการแปลภาษาตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ได้ทันที ช่วยให้การประสานงานระหว่างนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมบูรณาการการปฏิบัติกับสถานทูตที่มีที่ตั้งอยู่ในประเทศ หารือแลกเปลี่ยนยกระดับดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และร่วมกันวางแผนแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่มีความสำคัญเร่งด่วน ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และประสานข้อมูลเหตุข่าวสารที่ถูกต้อง รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ เพื่อแก้ไขปัญหา และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนของประเทศตนเองได้รับทราบข้อเท็จจริง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความพร้อมในการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายต่างทุ่มเทและตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ยกระดับความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว ด้วยมาตรการที่มีประสิทธิภาพ เสริมสร้างความปลอดภัย ฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย.