รอง ผบ.ตร. ขึ้นเหนือมอบนโยบาย พร้อมร่วมแถลงข่าวตำรวจภาค 5 บุกทลายเครือข่าย “VAPEHAUS” กลางเมืองเชียงใหม่ ยึดบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 3.6 หมื่นชิ้น มูลค่า 6.6 ล้านบาท
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!



เชียงใหม่ – เมื่อวันที่ 28 ต.ค.68 เวลา 14.30 น. ที่ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบ.ตร. มอบนโยบายให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมร่วมแถลงข่าวผลการปฏิบัติการบุกค้นรังจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ เครือข่าย “VAPEHAUS” 3 จุด กลางเมืองเชียงใหม่ รวบ 2 ผู้ต้องหา พร้อมของกลางบุหรี่ไฟฟ้า 36,555 ชิ้น มูลค่ากว่า 6.6 ล้านบาท พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.จิตร์พิสุทธิ์ อิ่มสงวน ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 (ผบก.สส.ภ.5), พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยชุดจับกุมร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้


ตำรวจภูธรภาค 5 โดย ศปอส.ภ.5 และ บก.สส.ภ.5 เปิดปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจค้น 3 จุด กลางเมืองเชียงใหม่ ทลายแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์เครือข่าย “VAPEHAUS” จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมยึดของกลางบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมหาศาล มูลค่ากว่า 6.6 ล้านบาท เตรียมขยายผลล่าตัวนายทุนใหญ่


การปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการอำนวยการโดย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมด้วยรองผู้บัญชาการและผู้บังคับการในสังกัด โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจาก ศปอส.ภ.5 และ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.5 ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่ามีกลุ่มบุคคลลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านเว็บไซต์ชื่อ “vapehaus URL: https://vapehaus.net” ในรูปแบบการสั่งซื้อออนไลน์และจัดส่งสินค้า



ต่อมา เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2567 เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำหมายศาลเข้าทำการตรวจค้นพร้อมกัน 3 จุด ได้แก่ จุดที่ 1: หมู่บ้านกุลพันธ์วิลล์ 3 ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ ยึดบุหรี่ไฟฟ้า 546 ชิ้น, จุดที่ 2: หมู่บ้านกาญจน์กนกวิลล์ 10 ต.สันผักหวาน อ.หางดง ยึดบุหรี่ไฟฟ้า 3,828 ชิ้น และจุดที่ 3: หมู่บ้านสมหวัง ต.สันผักหวาน อ.หางดง ยึดบุหรี่ไฟฟ้า 33,181 ชิ้น



รวมของกลางบุหรี่ไฟฟ้าชนิดต่างๆ จำนวน 36,555 ชิ้น มูลค่ารวมกว่า 6,690,000 บาท นอกจากนี้ ยังยึดคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ กล่องบรรจุภัณฑ์กว่า 2,000 กล่อง และเร้าเตอร์ไวไฟ

เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันจับกุม 1. นางสาวกบิษฎา (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี และ 2. นางสาวกฤษณา (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมกันขายบุหรี่ไฟฟ้าโดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ และร่วมกันช่วยซ่อนเร้นหรือจำหน่ายของอันเนื่องด้วยความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560”


ผู้ต้องหาทั้งสองให้การว่าทำหน้าที่เป็นพนักงานบรรจุและจัดส่งสินค้าทางไปรษณีย์ ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนคนละ 16,000 บาท โดยจะทำงานในช่วงกลางคืนและจัดส่งสินค้าในช่วงเช้า จากการตรวจสอบพบว่ามีการสั่งซื้อผ่านไลน์แอด 3 บัญชี มีสมาชิกรวมกว่า 18,000 คน และมีเงินหมุนเวียนในระบบซื้อขายประมาณ 30 ล้านบาทต่อปี

ขณะนี้ ชุดจับกุมอยู่ระหว่างการขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน แหล่งที่มาของบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมด และติดตามจับกุมผู้รับผลประโยชน์ รวมถึงนายทุนที่อยู่เบื้องหลังการกระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.