ผอ.ชลประทานเชียงใหม่ ติดตามการเร่งระบายน้ำในแม่น้ำปิง ที่ประตูระบายน้ำแม่สอย เปิดประตูทั้ง 10 บาน ปล่อยน้ำลงสู่ทะเลสาบดอยเต่า เตรียมพร้อมรับมือพายุ “คัลแมกี” ที่จะเข้ามาห้วงวันที่ 8 – 10 พ.ย.นี้
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!


วันที่ 7 พ.ย. 68 นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่ตรวจดูความพร้อมในการระบายน้ำในแม่น้ำปิง ที่ประตูระบายน้ำแม่สอย ต.แม่สอย อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นประตูระบายน้ำตัวสุดท้ายในแม่น้ำปิง ก่อนที่มวลน้ำทั้งหมดในแม่น้ำปิงจะไหลลงสู่ทะเลสาบดอยเต่า อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ และไหลลงไปยังเขื่อนภูมิพล ซึ่งในวันนี้ก็ได้มีการเปิดประตูระบายน้ำทั้งหมด 10 ช่องบาน เพื่อเร่งระบายน้ำและดึงมวลน้ำจากลำน้ำสาขาต่างๆ เตรียมความพร้อมในการรองรับพายุ “คัลแมกี” ที่จะเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตามที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือได้คาดการณ์ไว้ว่าจะได้รับผลกระทบในห้วงระหว่างวันที่ 8 – 10 พ.ย. 68 นี้




นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์แม่น้ำปิงที่ต้นน้ำ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ไหลลงมาสู่พื้นที่ตอนล่าง ประมาณ 8 ลบ.ม.ต่อวินาที สำหรับที่สถานีวัด P.1 สะพานนวรัฐ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีอัตราการไหลอยู่ที่ 176 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งมากกว่า 67 ที่ผ่านมา ส่วนสถานการณ์ช่วงปลายน้ำที่ประตูระบายน้ำแม่สอย ต.แม่สอย อ.จอมทอง มีอัตราการไหล 483 ลบ.ม.ต่อวินาที น้ำทั้งหมดจะไหลลงสู่ทะเลสาบดอยเต่า อ.ดอยเต่า วันละประมาณ 48 – 49 ล้าน ลบ.ม. ก่อนจะไหลลงสู่เขื่อนภูมิพล


ในส่วนของโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้มีการพร่องน้ำในแม่น้ำปิงตั้งแต่ประตูระบายน้ำแม่สอย อ.จอมทอง ไปถึงประตูระบายน้ำฝายดอยน้อย อ.ดอยหล่อ และที่ประตูระบายน้ำท่าวังตาล อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อรองรับพายุที่จะเคลื่อนเข้าสู่พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 8 – 10 พ.ย. 68 นี้



ส่วนเขื่อนขนาดใหญ่ ที่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล มีน้ำเต็มความจุที่ร้อยละ 103 และเขื่อนแม่กวงอุดมธารา มีปริมาณน้ำค่อนข้างสูง มีความจุร้อยละ 93 ซึ่งเขื่อนขนาดใหญ่ทั้งสองแห่ง ก็ยังคงมีพื้นที่รองรับน้ำที่จะเกิดจากพายุ “คัลแมกี” ที่จะเข้ามาได้ ซึ่งเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จะรับน้ำได้อีกประมาณ 20 ล้าน ลบ.ม. ส่วนเขื่อนแม่กวงอุดมธารา รองรับน้ำได้อีก 18 – 20 ล้าน ลบ.ม. ขณะเดียวกันทางเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ก็มีการเพิ่มการระบายน้ำลงมาในแม่น้ำปิง จากเดิม 5 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 30 ลบ.ม.ต่อวินาที ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 13 แห่ง ก็มีการระบายน้ำ พร่องน้ำบางส่วน เพื่อที่จะสามารถน้ำฝนที่จะเกิดจากพายุในช่วงดังกล่าวได้.