ผอ.ชลประทานเชียงใหม่ สั่งพร่องน้ำ ‘อ่างแม่ตูบ’ รับมือพายุ ‘คัลแมกี’!Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!
ผอ.ชลประทานเชียงใหม่ ตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแม่ตูบ อ่างขนาดกลางที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ น้ำเต็มจนล้นทางระบาย สั่งตรวจสอบเส้นทางระบายน้ำไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ พร่องน้ำรับมือพายุ “คัลแมกี” ด้านกลุ่มผู้ใช้น้ำปลื้มปิติดีใจในโครงการพระราชดำริ ในหลวง ร.9 ที่มีอ่างน้ำแห่งนี้
วันที่ 8 พ.ย. 68 ที่ผ่านมา นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ (ผคป.เชียงใหม่) ลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำแม่ตูบ อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจติดตามการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำแม่ตูบ ซึ่งเป็นอ่างขนาดกลางที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันมีน้ำเต็มความจุจนล้นทางระบายน้ำล้น ประกอบกับพายุ “คัลแมกี” ที่ทำให้ฝนตกหนัก จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งพร่องน้ำในการรองรับมวลน้ำจากน้ำฝนที่ตกลงมา ป้องกันไม่ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ
นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำแม่ตูบ อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ เป็นโครงการชลประทาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ สถานการณ์ในห้วงที่ผ่านมามีฝนตกในพื้นที่อำเภอดอยเต่าค่อนข้างมาก เกิดจากอิทธิพลของร่องมรสุม ทำให้อ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีปริมาณน้ำเต็มความจุที่ 39 ล้าน ลบ.ม. กระทั่งน้ำที่เกินได้ล้นอาคารระบายน้ำล้นลงสู่พื้นที่ตอนล่าง การบริหารน้ำในอ่างเก็บน้ำแม่ตูบช่วงนี้จะมีการพร่องน้ำบางส่วน เพื่อรองรับพายุ “คัลแมกี” ที่ได้เคลื่อนตัวเข้ามาสู่พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในห้วงวันที่ 8 – 10 พ.ย. ซึ่งการระบายน้ำได้มีการตรวจสอบทางระบายน้ำ ตั้งแต่ด้านท้ายของอ่างเก็บน้ำแม่ตูบ ไปจนถึงลำห้วยสำคัญ ลำห้วยแม่ตูบ ก่อนจะไหลลงสู่ทะเลสาบดอยเต่า และเขื่อนภูมิพล ซึ่งผลจากการตรวจสอบเส้นทางระบายน้ำ ก็มีความสามารถในการระบายน้ำ
นายเกื้อกูลฯ กล่าวอีกว่า อ่างเก็บน้ำแห่งนี้เมื่อมีน้ำเต็มความจุ ก็จะช่วยยังประโยชน์ให้กับชาวอำเภอดอยเต่าใช้เพื่อการอุปโภค บริโภค ใช้เพื่อการเกษตร ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องชาวดอยเต่า และคงไม่เกิดเหตุการณ์ที่เราเคยได้ยินกันมาตลอดตามเพลงว่า “ดอยเต่า บ้านเฮากันดาร” ตอนนี้ “ดอยเต่า ไม่กันดารแล้ว” เพราะมีน้ำเต็มความจุ ไว้ช่วยเหลือพี่น้องชาวดอยเต่าให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ จะส่งน้ำให้เพื่อการเกษตรให้ได้ไม่น้อยกว่า 3 ปี ต่อจากนี้
“สำหรับพื้นที่เสี่ยงกรณีที่มีน้ำล้นอาคารระบายน้ำล้น พื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจะอยู่ใน ต.โป่งทุ่ง โครงการฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจและดำเนินการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ มีการกำจัดสวะต่างๆ บางส่วนอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง เช่น ท่อส่งน้ำที่ราษฎรได้ทำขึ้นเองเพื่อที่จะข้ามลำน้ำอาจจะเล็กไป ในส่วนนี้ทางท้องถิ่น ท้องที่ ก็ได้มีการประสานงานที่จะเพิ่มจำนวนท่อ ขยายท่อให้มากขึ้น ส่วนน้ำที่ล้นจากอ่างแม่ตูบผ่านอาคารระบายน้ำล้น จะล้นอยู่ประมาณ 1 – 2 เดือน ก็จะกลับเข้าสู่ระดับเก็บกักปกติ” ผคป.เชียงใหม่ กล่าว
ด้านตัวแทนกลุ่มผู้ใช้น้ำ นางวัญเพ็ญ โลแก้ง เลขานุการกลุ่มผู้ใช้น้ำอ่างแม่แม่ตูบ กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอ่างเก็บน้ำแม่ตูบแห่งนี้เต็มตลอด น้ำใต้ดินเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ ในช่วงฤดูแล้งก็ช่วยเกษตรกรในเรื่องลำไย ข้าว ซึ่งได้เปิดน้ำทำนามาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. จนถึงขณะนี้ ส่วนเรื่องน้ำสำหรับลำใยจะเปิดให้ใช้เดือนละ 1 ครั้ง ครั้งละ 10 วัน ในช่วงฤดูแล้งจะมีปัญหาบ้างในส่วนของเกษตรกรที่อยู่ปลายน้ำโดยเฉพาะปีที่อ่างมีน้ำเก็บกัดน้อย
“ช่วงปี 2545 ได้ใช้ประโยชน์จากน้ำของอ่างเก็บน้ำแม่ตูบแห่งนี้ ก็ดีใจมากที่มีน้ำตรงนี้ ก็เคยมีอยู่ที่ปริมาณน้ำต่ำสุดเหลือ 4 ล้าน ลบ.ม.เศษ คิดเป็น 3 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง หลังจากนั้นก็มีน้ำเข้ามาเรื่อยๆ และได้น้ำเติมมาจากอ่างเก็บน้ำแม่หาด ชาวดอยเต่าก็ปลื้มกับโครงการพระราชดำริของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ถ้าไม่มีพระองค์ ชาวดอยเต่าก็จะลำบากมากกว่านี้ น้ำพื้นดินก็จะไม่มี ปลาก็จะไม่มี และไม่มีการประมงในพื้นที่เกิดขึ้น หากไม่มีอ่างเก็บน้ำแห่งนี้น้ำก็จะไหลไปอย่างไร้ประโยชน์ เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้” เลขานุการกลุ่มผู้ใช้น้ำอ่างเก็บน้ำแม่ตูบ กล่าวในที่สุด.