ผคป.เชียงใหม่ ยืนยัน เพิ่มประสิทธิภาพส่งน้ำให้พื้นที่เกษตร ต.ชมพู ต.หนองหอย และ ต.อุโมงค์ ลำพูน!
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!
เชียงใหม่-ชลประทาน เร่งขุดลอกลำเหมืองพญาคำ ขุดลอกครั้งนี้ในรอบ 20 กว่าปี คาด 1 เดือนแล้วเสร็จ ช่วยพื้นที่การเกษตร เพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำจากปากเหมืองที่ตัวเมืองเชียงใหม่ไปยังด้านท้ายที่ จ.ลำพูน ให้เร็วมากยิ่งขึ้น
วันที่ 10 พ.ย. 68 นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ (ผคป.เชียงใหม่) ลงพื้นที่ร่วมกับ นายเรืองวิทย์ ว่องไว ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำฝายพญาคำ และ นายวิสาขะ ปัญญาช่วย รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ลงพื้นที่บริเวณสะพานลำเหมืองพญาคำ ถนนเชียงใหม่ – ลำพูน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ติดตามการขุดลอกลำเหมืองพญาคำ เพื่อเปิดเส้นทางน้ำให้ไหลสะดวกมากยิ่งขึ้น ช่วยเหลือพื้นที่ทางการเกษตร การขุดลอกจะดำเนินการขุดให้ลึกลงไปประมาณ 1 – 2 เมตร และขุดขยายลำเหมืองที่กว้างแค่ 2 – 3 เมตร เป็น 6 – 8 เมตร เฟสแรกระยะ 2 กิโลเมตร ตั้งแต่ปากเหมืองพญาคำ ถึงด้านท้ายบริเวณหลังวัดเมืองสาตรหลวง ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยใช้แบคโฮขนาดเล็กจำนวน 2 คัน ซึ่งการขุดลอกในครั้งนี้ถือว่าเป็นการขุดในรอบ 20 กว่าปี หลังจากอุทกภัยครั้งใหญ่ในปี 2567 ซึ่งมีดินตะกอนทับถมจำนวนมาก
นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า เหตุการณ์อุทกภัยในปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบกับเหมืองพญาคำ มีตะกอนดินเข้ามาสะสมบริเวณตอนต้นของเหมืองพญาคำเป็นจำนวนมาก และทางกลุ่มผู้ใช้น้ำเหมืองพญาคำได้ทำหนังสือถึงจังหวัดเชียงใหม่ ขอความร่วมมือขอให้โครงการชลประทานเชียงใหม่ สำนักงานชลประทานที่ 1 มาขุดลอกลำเหมืองพญาคำ เริ่มตั้งแต่ปากเหมืองพญาคำ ใกล้กับร้านลาบบังเกอร์ จนถึงบริเวณวัดเมืองสาตรหลวง ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ได้นำเครื่องจักรเล็ก จำนวน 2 คัน พร้อมกำลังพลเข้ามาสนับสนุนในการขุดลอกเปิดเส้นทางน้ำ ขณะนี้ดำเนินการไปมากกว่า 300 เมตรแล้ว คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 1 เดือน จะแล้วเสร็จในช่วงต้นของเหมืองพญาคำ
“การขุดลอกเหมืองพญาคำ จะมีส่วนช่วยเป็นอย่างมากที่จะนำน้ำจากลำเหมืองพญาคำไปสู่พื้นที่ตอนล่าง ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรทั้งตำบลชมพู อ.สารภี ตำบลหนองหอย อ.เมืองเชียงใหม่ ต่อเนื่องไป ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน จะมีน้ำใช้เพื่อการเกษตรที่ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกเหนือจากการช่วยส่งน้ำเพื่อการเกษตรและยังช่วยเรื่องการระบายน้ำทั้งในเขตเมืองเชียงใหม่และอำเภอสารภี ลงไปสู่ลำน้ำกวง ลำน้ำแม่สะลาบต่อไป” ผคป.เชียงใหม่ กล่าว
นายเกื้อกูลฯ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับโครงการต่อเนื่องหลังจากที่มีการขุดช่วงต้นเหมืองพญาคำเสร็จเรียบร้อย จะมีการต่อเนื่องไปในพื้นที่หนองหอย ขณะนี้ทางด้านนายกเทศมนตรีตำบลหนองหอยได้ทำหนังสือมาถึงโครงการชลประทานเชียงใหม่ ขอสนับสนุนช่วยเหลือในการขุดลอกลำเหมืองช่วงที่มีการคับแคบตื้นเขิน ก็จะมีโครงการต่อเนื่องในลำดับต่อไป
ด้าน นายเรืองวิทย์ ว่องไว ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำฝายพญาคำ กล่าวว่า แต่ก่อนจะได้รับความร่วมจากกลุ่มผู้ใช้น้ำทำความสะอาดลำเหมืองฝายพญาคำ ขุดและนำมากองไว้ แต่ช่วงหลังทางกลุ่มผู้ใช้น้ำเหลือน้อยเพราะเป็นสังคมเมือง ทำให้กำลังคนลดน้อยลงไป จึงช่วยกันกำจัดวัชพืช ทำความสะอาด ซึ่งการนำดินขึ้นมาก็หลายปีแล้วที่ไม่ได้ทำ ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นเนื่องจากน้ำท่วมในปี 2567 ที่ผ่านมา ที่บริเวณปากเหมือง และตามเส้นทางต่างๆ มีโคลนเลนไหลมาทับถมลงในเหมืองพญาคำ จึงได้ขอความร่วมมือจากทางชลประทาน นำเครื่องจักรเข้ามาช่วยช่วยทำการขุดลอก บางจุดอาจจะเข้าถึงได้ยาก เพราะมีทั้งเสาไฟฟ้า และพื้นที่บางแห่งที่เครื่องจักรลงไม่ได้ก็จะใช้กำลังคนเข้ามาดำเนินการอีกครั้ง
“หลังจากที่มีการขุดลอกในครั้งนี้ หากไม่ดำเนินการก็จะทำให้น้ำที่เข้าปากเหมืองจะน้อยลงเรื่อยๆ อาจจะส่งผลกระทบไปถึงการไหลของน้ำในช่วงปลายทาง ที่ผ่านมามีเรื่องการปรับปรุงฝาย 3 แห่ง มีการต่อต้าน เพราะเกรงว่าน้ำจะไม่ไหลเข้าเหมืองโดยเฉพาะช่วงต้นหรือปากเหมือง แต่ครั้งนี้ได้ทำการขุดลอกแล้ว ก็จะทำให้เกิดความมั่นในภาคของจังหวัด และชลประทาน ที่จะเข้ามาดำเนินการร่วมกันทำทุกวิถีทางทำให้น้ำไหลเข้าปากเหมืองพญาคำ เมื่อน้ำต้นทางไหลไปแรงและเร็ว ปลายทาง ก็จะไหลได้เร็วขึ้น เพราะปลายทางอยู่ ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งกลุ่มผู้ใช้น้ำในภาคการเกษตรจะมีปัญหาในช่วงหน้าแล้ง แม้ว่าจะมีการปรับปรุงฝาย หรือไม่ได้ปรับปรุงฝาย ก็จะมีปัญหาตลอด เพราะจะมีการแบ่งน้ำตามที่ได้มีการหารือร่วมกับชลประทาน เพราะแต่ละปีมีน้ำเท่าไหร่บริหารจัดการอย่างไรในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งปีนี้ก็ไม่แล้ง เพราะมีน้ำจนเกือบท่วมและคิดว่าไม่มีปัญหาในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึง” ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำฝายพญาคำ กล่าว.