“เทศบาลนครเชียงใหม่ จัดกิจกรรม ‘หมายเมือง 730 ปี’ นั่งรถรางเจาะลึก 5 ชุมชนเศรษฐกิจและหัตถกรรม”
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ มอบหมายให้ นางนัชชา บูรณุปกรณ์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรี ร่วมกิจกรรมการอบรมอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า (Chiangmai City of Happiness workshop forum 2026) ในหัวข้อ “หมายเมือง 730 ปี” เพื่อสร้างการรับรู้มรดกชุมชนจากอดีต เตรียมปรับตัวกับบริบทเมืองในปัจจุบัน เข้าสู่เชียงใหม่ 730 ปี ภายในกิจกรรมดังกล่าวได้มีการนั่งรถรางชมเมือง เพื่อศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับย่านประวัติศาสตร์ เส้นทางเศรษฐกิจของเมือง รวมทั้งชุมชนเก่าแก่ทั้ง 5 ชุมชน อันได้แก่ ชุมชนช้างม่อย ชุมชนเชตวัน ชุมชนลอยเคราะห์ ชุมชนระแกง และชุมชนช่างฆ้อง ชมเส้นทางประวัติศาสตร์รวมถึงสินค้าหัตถกรรมของชุมชนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่
โดยมี นายธนกร สารบรรณ เลขานุการนายกเทศมนตรี พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นักเรียนนักศึกษา และภาคประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว
‘5 ชุมชนประวัติศาสตร์’
‘ชุมชนช้างม่อย’ ย่านเศรษฐกิจที่ไม่เคยหลับใหล เป็นย่านการค้าสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่างตัวเมืองเก่ากับแม่น้ำปิง ในอดีตเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่คึกคัก ปัจจุบันโดดเด่นอย่างมากในเรื่อง “งานหัตถกรรมจักสาน” ที่มีการประยุกต์ดีไซน์ให้ทันสมัย จนกลายเป็นจุด Check-in ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวและเป็นโมเดลของย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative District)
‘ชุมชนเชตวัน’ ประตูสู่แม่น้ำปิง ย่านนี้มีความสำคัญในฐานะที่พักของกลุ่มพ่อค้าและคหบดีในสมัยก่อน มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูง มีวัดเชตวันเป็นศูนย์กลางจิตใจ และมีสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนที่สะท้อนถึงยุคทองของการค้าขายทางเรือ
‘ชุมชนลอยเคราะห์’ ประวัติศาสตร์จากเชียงแสน เดิมเรียกว่า “บ้านฮ่อม” มีประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐานของชาวเชียงแสนที่อพยพมาในยุค “เก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง” (ยุคฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่) ปัจจุบันเป็นย่านที่ผสมผสานระหว่างวิถีชีวิตดั้งเดิมกับธุรกิจบริการและการท่องเที่ยวได้อย่างลงตัว
‘ชุมชนระแกง’ เส้นทางสายวัฒนธรรมทิศใต้ เป็นชุมชนเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับแนวกำแพงเมืองและประตูเชียงใหม่ โดดเด่นด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่าย มีวัดระแกงเป็นแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม และเป็นเส้นทางที่สะท้อนถึงการขยายตัวของเมืองจากชั้นในสู่ชั้นนอก
‘ชุมชนช่างฆ้อง’ ภูมิปัญญาช่างฝีมือล้านนา ในอดีตเป็นย่านที่อยู่อาศัยของกลุ่มช่างฝีมือ โดยเฉพาะช่างทำฆ้องและเครื่องโลหะ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อชุมชน แม้ปัจจุบันบริบทจะเปลี่ยนไป แต่ร่องรอยของงานศิลปะและจิตวิญญาณของชุมชนช่างยังคงปรากฏให้เห็นผ่านวัดวาอารามและงานหัตถกรรมในพื้นที่
กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของเวทีเสวนาและเวิร์กชอป Chiang Mai City of Happiness 2026 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 21 ธันวาคม 2568 ณ ศูนย์มรดกเมืองเทศบาลนครเชียงใหม่ ในการบูรณาการระหว่าง เทศบาลนครเชียงใหม่ และ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จาก 3 สถาบันหลัก (ม.เชียงใหม่, ม.แม่โจ้ และ มทร.ล้านนา) เพื่อเตรียมความพร้อมให้เชียงใหม่ก้าวสู่การเป็น “เมืองมรดกโลก” ในวาระครบรอบ 730 ปี (ปี พ.ศ. 2569) เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่ นักเรียน และนักศึกษา ให้เข้ามา “หมาย” หรือจดจำมรดกทางวัฒนธรรม เพื่อส่งต่อและปรับตัวให้เข้ากับบริบทเมืองสมัยใหม่.