แม่แจ่มเมืองแห่งโครงการพระราชดำริ ปี 2569-2571 กรมชลประทานดันงบกว่า 600 ล้านบาท พัฒนาปรับปรุงแหล่งน้ำ วาง 3 โครงการหลักเริ่มดำเนินการ สร้างอ่างเก็บน้ำแม่ศึกเริ่มทำ EIA ฝายผาแดงปรับปรุงเป็น ปตร. และโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ลอย พร้อมวาง 2 โครงการเพื่อฝายหลวง ทำการขุดลอกหน้า-ท้ายฝาย กับ สร้างอาคารป้องกันการกัดเซาะตลิ่งฝายหลวง
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!



เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 2568 ที่ผ่านมา ณ ที่ว่าการอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ นายอัฏฐวิชย์ นาควัชระ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 1 พร้อมด้วย นายจักรกฤษณ์ ชมภูบาง ผู้อำนวยการส่วนแผนงาน นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ นายธีระเดช โปรณะ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม นางสาวชลมาศ ทองคำ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 6 โครงการชลประทานเชียงใหม่ นายณรงค์ วงศืจันทร์ทิพย์ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 7 โครงการชลประทานเชียงใหม่ ร่วมต้อนรับ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเชียงใหม่ เขต 9 และคณะ ในโอกาสลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่จะช่วยสนับสนุนภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน โดยมี คณะผู้บริหารหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงส่วนท้องถิ่น ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำฝายหลวงแม่แจ่ม อ่างสันหนอง และประชาชน เข้าร่วม โดยได้ถือเป็นเวทีแห่งมอบนโยบายและรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในมุมต่าง ๆ จากหน่วยงานและประชาชนในพื้นที่ อันจะเพื่อนำไปสู่การพิจารณาหาแนวทางแก้ไขต่อไปในอนาคต






นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวในที่ประชุมว่า อำเภอแม่แจ่มเป็นเมืองหลวงของโครงการพระราชดำริก็ว่าได้ เพราะแม่แจ่มเป็นอำเภอที่มีโครงการพระราชดำริมากที่สุด มากถึง 60 โครงการ สำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับกรมชลประทานในปี 2568 จะเป็นการพัฒนาระบกระจายน้ำในพื้นที่ การปรับปรุงฝาย ซ่อมสิ่งก่อสร้างเดิม โดยเฉพาะโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ การพัฒนาหลักๆ มี 3 โครงการ โครงการแรก โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ศึก ซึ่งมีความจุ 5.6 ล้าน ลบ.ม. หากมี่การก่อสร้างพื้นที่หลายตำบลใน อ.แม่แจ่ม จะได้ประโยชน์อย่างมาก ซึ่งโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ศึกได้รับงบประมาณเพื่อการศึกษาผฃกระทบสิ่งแวดล้อมซึ่งจะดำเนินการในปี 2569 นี้



“อีกโครงการเป็นพื้นที่ตอนบนขึ้นไป คือ โครงการฝายผาแดง จะมีการปรับปรุงให้เป็นประตูระบายน้ำ สำหรับข้อกังวลว่าหากก่อสร้างแล้วน้ำจะไม่ไปถึงฝายหลวง ขอยืนยันว่าน้ำไปถึงฝายหลวงแน่ เพราะมีการศึกษาแล้ว โครงการที่ 3 คือโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ลอยพร้อมระบบส่งน้ำ ซึ่งทั้ง 3 โครงการเป็นการพัฒนาในพื้นที่แม่แจ่มตอนกลาง และไปถึงตอนท้ายสุดคือ ฝายหลวง ซึ่งจะมีโครงการพัฒนาปรับปรุงด้วยเช่นกัน ทั้งหมดนี้จะยังประโยชน์ให้กับพื้นที่ราว 20,000 ไร่ ทั้งนี้ในช่วงปี 2569-2571 จะมีงบประมาณของกรมชลประทานลงมาในพื้นที่อำเภอแม่แจ่มราว 600 ล้านบาท” ผคป.เชียงใหม่ กล่าว




จากนั้นคณะฯ ได้ลงพื้นที่บริเวณ ฝายหลวง ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม เพื่อรับฟังรายงานความคืบหน้าการพัฒนาฝายหลวงซึ่งมีโครงการสำคัญๆ ด้วยกัน 2 โครงการ โครงการแรกคือ โครงการขุดลอกฝายหลวง โดยการขุดตะกอนดินทั้งหน้าและท้ายฝาย ซึ่งจะทำให้สามารถระบายน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รองรับปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ได้ดี โดยปี 2568 ได้งบประมาณเพื่อดำเนินการขุดลอกในวงเงิน 10 ล้านบาท


อีกโครงการคือ โครงการอาคารป้องกันการกัดเซาะตลิ่งฝายหลวง กรมชลประทานได้ดำเนินการก่อสร้างฝายหลวง เมื่อปี 2536 โดยตั้งอยู่ในเขตบ้านท้องฝาย หมู่ที่ 8 ตำบลช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ขนาดสันฝายยาว 50 เมตร สูง 1.3 เมตร พื้นที่รับประโยชน์ 1,600 ไร่ ซึ่งฝายหลวงเป็นฝายทดน้ำกั้นลำน้ำแม่แจ่ม มีตะกอนมาทับถมเป็นจำนวนมาก ในฤดูฝนมีปริมาณน้ำหลากทำให้การระบายน้ำไม่สะดวก เกิดน้ำเอ่อท่วมบริเวณพื้นที่หมู่บ้านและพื้นที่ทำการเกษตรด้านเหนือน้ำ ชาวบ้านท้องฝาย หมู่ที่ 8 ต.ช่างเคิ่ง และหมู่บ้านใกล้เคียงที่อาศัยอยู่บริเวณฝายหลวงได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก




ต่อมาเกิดปัญหาอุทกภัย กระแสน้ำกัดเซาะตลิ่งฝั่งซ้ายของลำน้ำแม่แจ่ม ราษฎรจึงขอพระราชทานแนวทางแก้ไขต่อสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และได้พระราชทานพระราชดำริ เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2538 ให้กรมชนประทานดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยก่อสร้างฝายหลวงทางฝั่งซ้ายเพิ่มเติม เมื่อปี พ.ศ. 2540 ต่อมาเกิดอุทกภัยน้ำล้นตลิ่งท่วมพื้นที่การเกษตรของราษฎร จึงเห็นควรให้ดำเนินการป้องกันและบรรเทาปัญหา ก็ได้ดำเนินการขุดลอกตะกอนด้านหน้าฝาย – ด้านท้ายฝาย ซึ่งใช้วงเงินงบประมาณ 10 ล้านบาท (เสนอของบประมาณงบกลางปี 68) สามารถระบายน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถรองรับปริมาณน้ำในฤดูฝนได้ดี ราษฎรในเขตพื้นที่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน นอกจากนี้ได้มีการก่อสร้างอาคารป้องกันการกัดเซาะตลิ่งของลำน้ำแม่แจ่ม โดยก่อสร้างอาคารป้องกันตลิ่งฝั่งซ้าย ความยาวประมาณ 500 เมตร ก่อสร้างอาคารป้องกันตลิ่งฝั่งขวาความยาวประมาณ 500 เมตร เพื่อป้องกันการกัดเซาะตลิ่งลำน้ำแม่แจ่ม ป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่งในฤดูน้ำหลาก ซึ่งส่งผลกระทบกับถนน และบริเวณพื้นที่การเกษตรของราษฎรตามแนวลำน้ำแม่แจ่ม และเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำในลำน้ำแม่แจ่ม พื้นที่บ้านช่างเคิ่ง ช่วยบรรเทาการเกิดอุทกภัยในลำน้ำแม่แจ่ม ระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี วงเงินงบประมาณ 20 ล้านบาท.