รวบหนุ่มหัวร้อนใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์พนักงานสวนสัตว์เชียงใหม่ล้มหัวฟาดพื้นซี่โครงหัก ตำรวจสืบสวนช้างเผือกรวบตัวคนร้ายซิ่งจักรยานยนต์ตามถีบรถผู้เสียหายจนล้มคว่ำหัวฟาดพื้นกลางถนนเชียงใหม่ โชคดีสวมหมวกกันน็อคทำรอดตาย แต่เจ็บหนัก เผยสุดงงอยู่ๆ โดนเข้ามาหาเรื่อง ก่อนถูกตามและถีบรถจักรยานจนล้มลงบาดเจ็บมากสุดตำรวจจับกุมผู้เกิดเหตุแล้ว
วันที่ 17 เม.ย.68 กรณีมีผู้ใช้โซเชียลมีเดียในจังหวัดเชียงใหม่จำนวนมากต่างพากันแชร์คลิปจากกล้องติดหน้ารถยนต์ที่บันทึกเหตุการณ์ที่ผู้ขี่รถจักรยานยนต์คันหนึ่งถูกผู้ขี่รถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งขับตามหลังมาทางด้านขวาและเร่งเครื่องแซงขึ้นหน้าไปแล้วใช้เท้าถีบใส่จนรถล้มลงกลางถนนพร้อมกับที่ผู้ขี่ร่างกระแทกพื้นอย่างแรงแบบไม่ทันตั้งตัว โดยเฉพาะส่วนศีรษะ ซึ่งยังดีที่สวมใส่หมวกกันน็อคไว้ โดยคลิปดังกล่าวมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากถึงการกระทำที่เลวร้ายของผู้ก่อเหตุที่ร้ายแรงถึงขั้นอาจทำให้อีกฝ่ายเสียชีวิตได้ รวมทั้งอาจทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ได้รับความเดือดร้อนไปด้วย และถึงแม้ทั้งคู่อาจจะมีปัญหากระทบกระทั่งกัน อย่างไรก็ตามไม่ควรก่อเหตุเช่นนี้ นอกจากนี้ต่างเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
ทั้งนี้จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้เสียหาย ชื่อนายศุภกร ศรีอินต๊ะ อายุ 47 ปี เป็นพนักงาน ของสวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งได้รับบาดเจ็บ กระดูกซี่โครงด้านขวาหัก 3 ซี่ ศีรษะแตก และมีบาดแผลทั่วร่างกาย ต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยแพทย์ได้ทำการ MRI สมอง เนื่องจากศีรษะกระแทกพื้น ซึ่งเบื้องต้นไม่พบความผิดปกติ แต่ยังคงต้องเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดและนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยนายศุภกร เล่าว่า เหตุการณ์ตามคลิปเกิดขึ้นช่วงเที่ยงวันนี้บนถนนโชตนา ช่วงจากสี่แยกข่วงสิงห์ มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 150 เมตร ระหว่างที่ตัวเองกำลังจะไปซื้ออะไหล่ในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อนำกลับไปซ่อมอุปกรณ์ที่ทำงาน ซึ่งจังหวะเกิดเหตุไม่ทันตั้งตัว ทำให้ได้รับบาดเจ็บ แต่ยังดีที่สวมหมวกกันน็อคไว้ ไม่เช่นนั้นอาจศีรษะกระแทกพื้นจนเสียชีวิตหรือพิการไปตลอดชีวิต ส่วนรถจักรยนต์ได้รับความเสียหาย และหลังเกิดเหตุทางพี่ชายได้นำหลักฐานเป็นคลิปกล้องหน้ารถของพลเมืองดีเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้ว ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก
โดยนายศุภกร บอกด้วยว่า ในช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุ ระหว่างขับขี่รถมาตามทางใกล้กับวัดเจ็ดยอด ในตัวเมืองเชียงใหม่ จะไปทางสี่แยกข่วงสิงห์นั้น อยู่ๆ ทางฝ่ายผู้ก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์มากีดขวางและท้าทายหาเรื่อง พร้อมกล่าวหาว่าตัวเองขับขี่ตัดหน้า ทั้งๆ ที่ตัวเองเชื่อว่าไม่ได้ทำเช่นนั้น แต่ก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษไป เพราะไม่อยากมีปัญหาและคิดถึงลูกเมียที่ต้องดูแล แล้วขับขี่รถต่อไป แต่ทางฝ่ายผู้ก่อเหตุยังคงขับรถตามมาหาเรื่องเช่นเดิม และตัวเองได้ยกมือไหว้ขอโทษไปอีกครั้ง จนตัวเองขับรถไปติดสัญญาณไฟแดงที่แยกข่วงสิงห์ และผู้ก่อเหตุยังคงตามมาอีก แต่ตัวเองไม่ต่อล้อต่อเถียงและคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแล้ว กระทั่งตัวเองได้ขับขี่รถเลี้ยวขวามุ่งหน้าเข้าตัวเมืองได้ประมาณ 150 เมตร ปรากฏว่า ทางคู่กรณีได้ก่อเหตุถีบรถของตัวเองจนล้มแบบไม่ทันตั้งตัวตามที่ปรากฏในคลิปหลักฐาน ซึ่งมองว่าเป็นกระทำที่เกินกว่าเหตุ เพราะอาจทำให้ตัวเองเสียชีวิตได้ ทั้งที่ไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน โดยยืนยันว่าขอดำเนินคดีตามกฏหมายจนถึงที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่าล่าสุด ช่วงเย็นวันนี้ (17เม.ย.68) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามสืบสวนจนทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้วพบว่าเป็นชายอายุ 26 ปี ชาวอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีภรรยาเปิดร้านทำเล็บอยู่ย่านช่างเคี่ยน ในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยก่อนก่อเหตุนั้น ผู้ก่อเหตุมีเรื่องทะเลาะกับภรรยาอย่างรุนแรงและมีการขู่ฆ่าด้วย จากนั้นได้ออกจากบ้านไปแล้วก่อเหตุดังกล่าว.
https://fb.watch/z0Ly5utLge/?