ข่าวภาคเหนือ » ศอ.ปกป.ภาค 3 สน.จัดประชุมการใช้อากาศยาน 7 หน่วยงานหลัก หวังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานช่วงเดือนเมษายน

ศอ.ปกป.ภาค 3 สน.จัดประชุมการใช้อากาศยาน 7 หน่วยงานหลัก หวังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานช่วงเดือนเมษายน

13 มีนาคม 2025
105   0

Social Share

ศอ.ปกป.ภาค 3 สน.จัดประชุมการใช้อากาศยาน 7 หน่วยงานหลัก หวังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานช่วงเดือนเมษายน

วันที่ 13 มีนาคม 2568 ที่ ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. อ.แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลตรีชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้าจัดประชุมการใช้อากาศยานจาก 7 หน่วยงานหลัก ประกอบด้วย เฮลิคอปเตอร์ MI-17 จากกองทัพบก, อากาศยาน BT-67 (กองทัพอากาศ) ,อากาศยาน KA -32 จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ,เฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,หน่วยบินตำรวจเชียงใหม่ รวมทั้งเครื่องบินจากกรมฝนหลวงและการบินเกษตร หน่วยโดรนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติภารกิจตลอดจนร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการทำงานในห้วงที่ผ่านมา เพื่อให้การแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือเป็นไปอย่างรวดเร็วและเกิดประโยชน์ต่อพื้นที่มากที่สุด คาดว่าสถานการณ์จะเริ่มรุนแรงขึ้นตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมไปจนถึงกลางเดือนเมษายน

ทั้งนี้รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ได้เน้นย้ำหน่วยควบคุมอากาศยาน ที่จะออกปฏิบัติการดับไฟป่าในแต่ละพื้นที่ จะต้องประสานงานกับหน่วยภาคพื้นดินให้ชัดเจนสอดคล้อง ชี้จุดให้ตรงเป้าหมาย เพื่อดับไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญการปฏิบัติงานแต่ละครั้งต้องคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของนักบิน อากาศยานและทุกฝ่าย นอกจากนี้ยังได้ขอให้นำเทคโนโลยีมาใช้ตรวจสอบ hotspot ให้ชัดเจนก่อนอนุมัติใช้อากาศยาน เพราะแต่ละครั้งต้องใช้งบประมาณสูง อาทิ การใช้โดรนตรวจจับความร้อน และแอพพลิเคชั่น Fire Man ที่ทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่พัฒนาขึ้น ซึ่งจะช่วยแจ้งเตือนจุดที่เจ้าหน้าที่ดับไฟเข้าไปปฏิบัติงานอยู่

อย่างไรก็ตามวันนี้เป็นวันแรกของการปรับแผนปฏิบัติงานในการใช้อากาศยาน ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า หลังกองทัพอากาศได้นำอากาศยาน peacemaker เข้ามาเสริมกำลังในการบินลาดตระเวนตรวจสอบจุดความร้อนแบบ real time ทุกวันในช่วงเช้า เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานของดาวเทียม โดยจะรายงานสถานการณ์จุดความร้อนที่รุนแรงให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอสนับสนุนการใช้อากาศยานเข้าดับไฟ ซึ่งจะช่วยให้ได้พิกัดดับไฟที่ชัดเจน และดับไฟได้เร็วก่อนลุกลามขยายวงกว้างยากต่อการดับ.