เจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ นำรถดูดโคลนถึง 2 คันพร้อมคนงาน เร่งดูดกำจัดแพลงก์ตอน ที่ลอยเต็มผิวน้ำ บริเวณคูเมืองเชียงใหม่ แต่ก็ไม่สามารถ กำจัดได้หมด จนมองดูน้ำเป็นสีเขียว ขณะฝูงห่าน ที่นำมาเลี้ยงในคูเมือง ได้รับความสนใจน้อยลง มีนักท่องเที่ยวปะปลายไปถ่ายภาพ
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!
สภาพน้ำในคูเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่ประตูสวนปรุง ไปจนถึงจุดที่มีการเลี้ยงฝูงห่านจำนวน 10 ตัว สภาพน้ำเป็นสีเขียว จากแพลงก์ตอน ที่มีการขยายแพร่พันธุ์ จนลอยเต็มผิวน้ำ และกินพื้นที่บริเวณ คูเมืองเชียงใหม่ เพิ่มมากขึ้น ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ต้องนำรถดูดโคลนถึง 2 คัน พร้อมคนงานจำนวนหลายคน ที่มาช่วยกันกำจัดแพลงก์ตอน โดยให้คนงาน ใช้ไม้ไผ่ มีเชือกผูกปลายไม้ไผ่ทั้ง 2 ด้าน ลากแพลงก์ตอน ที่ลอยเต็มผิวน้ำ เข้าหาปากท่อรถดูดโคลน เพื่อนำแพลงก์ตอน ออกไปทิ้ง แต่ทั้งนี้ แพลงก์ตอน ที่มีเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถ กำจัดได้หมด ทำให้ยังมีแพลงก์ตอน ลอยบนผิวน้ำหลงเหลืออยู่ จนมองดูน้ำ ในคูเมืองเป็นสีเขียว ช่วงระหว่างประตูสวนปรุง ไปจนถึงใกล้กับจุด ที่มีการเลี้ยงห่าน สาเหตุหนึ่งที่แพลงก์ตอน เจริญเติบโตได้ดี เนื่องจากเป็นน้ำนิ่ง ยิ่งมีแสงแดด ยิ่งมีมากขึ้น ทำให้ยังเป็นโจทย์ใหญ่ ที่ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ต้องหาวิธีในการกำจัด
แม้ว่าจะมีการนำฝูงห่านถึง 10 ตัว มาปล่อยในบริเวณคูเมือง เพื่อช่วยในการกำจัด เป็นเพียงแนวคิดวิธีหนึ่งเท่านั้น ทำให้ยังไม่สามารถ หาวิธีกำจัดแพลงก์ตอน แบบสิ้นซากได้ ขณะที่ฝูงห่าน 10 ตัว ที่ผ่านการทดลองงาน 7 วัน ขณะนี้บรรจุ เป็นพนักงานแล้ว ยังคงทำหน้าที่กินหญ้า และจอกแหนเป็นอาหาร โดยมีการทำรั้วให้ใหม่ เตี้ยกว่าเดิม และมีระยะแนวรั้วสั้น มีเล้าแบบมีหลังคาให้อาศัย
ทำให้ยังมีห่านบางตัว เดินขึ้นไปบนฝั่ง และเดินออกนอกแนวรั้วกั้น และจะขึ้นไปบนถนน เจ้าหน้าที่ หรือชาวบ้านที่เห็น ก็จะคอยไล่ต้อนห่านลงไป เพื่อไม่ให้ขึ้นมาบนฟุตบาธ อาจจะตกใจวิ่งไปบนถนนได้.