“มาดามหยก” ร่วมงานบุญสลากภัต วัดยางกวง สืบสานประเพณีอันดีงามของชาวพุทธ
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!







เมื่อวันที่ 7 ก.ย.68 นางกชพร เวโรจน์ หรือ “มาดามหยก” ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ การศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้เข้าร่วมงานบุญสลากภัตประจำปีที่วัดยางกวง ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามของชาวพุทธ




“มาดามหยก” ได้ร่วมทำบุญด้วยการตั้งโรงทานเพื่อแจกอาหารให้กับผู้ที่มาร่วมงานบุญ พร้อมทั้งถวายปัจจัยแด่ พระครูปลัดธีร์นวัช ญาณสิทธิวาที เจ้าอาวาสวัดยางกวง เพื่อร่วมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและสืบทอดประเพณีบุญสลากภัตให้คงอยู่ต่อไป



“ประเพณีตานก๋วยสลาก” หรือ “สลากภัต” คือ การถวายเครื่องไทยทานแก่พระภิกษุสามเณร โดยไม่เจาะจงผู้รับเป็นประเพณีนิยมที่สืบทอดกันมาช้านานของชาวล้านนาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยทั่วไปจะเริ่มราววันเพ็ญเดือน 12 เหนือ หรือประมาณเดือนกันยายน และสิ้นสุดในเดือนเกี๋ยงดับหรือประมาณเดือนตุลาคมของทุกปี








โดยมีประวัติความเป็นมาดังนี้ ในสมัยพุทธกาล ขณะที่พระพุทธเจ้าประทับ ณ พระเชตวันมหาวิหารนั้น วันหนึ่งนางกุมารีผู้หนึ่งได้อุ้มลูกชายวิ่งหนีนางยักขินีผู้มีเวรต่อกันหลายชาติแล้ว ติดตามมาจะทำร้ายลูกของนาง นางเห็นจวนตัวจะวิ่งหนีไปที่อื่นไม่ได้ จึงพาลูกวิ่งเข้าไปในวัดพระเชตวัน ในพระวิหารขณะที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมอยู่นางเอาลูกน้อยวางแทบพระบาทแล้วกราบทูลว่า “ ข้าแด่พระองค์ผู้เจริญ ขอทรงโปรดเป็นที่พึ่งแก่ลูกชายของหม่อมฉันเถิดพระเจ้าข้า ” พระพุทธเจ้าหยุดพฤติกรรมที่จองเวรของนางกุมาริกา และนางยักษ์ขินีด้วยการตรัสคำสอนว่า “เวรย่อมไม่ระงับด้วยเวร” แล้วทรงให้นางทั้งสองเห็นผิดชอบชั่วดี นางยักษ์ขินีรับศีล ๕ แล้วนางก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น กราบทูลพระพุทธเจ้าว่านางไม่รู้จะไปทำมาหากินอย่างไรเพราะรักษาศีลเสียแล้ว นางกุมาริกาจึงรับอาสาจะพานางไปอยู่ด้วย นางได้รับอุปการะจากนางกุมาริกาหลายประการ นึกถึงอุปการะอยากจะตอบแทนบุญคุณ จึงเป็นผู้พยากรณ์บอกกล่าวเรื่อง ลมฟ้าอากาศ คือ บอกให้นางกุมาริกาทำนาในที่ดอนในปีฝนมาก ทำนาในที่ลุ่มในเวลาฝนแล้ง นางกุมาริกาได้ปฏิบัติตามทำให้ฐานะร่ำรวยขึ้น คนทั้งหลายมีความสงสัยจึงมาถามหาสาเหตุ นางจึงบอกว่า นางยักษ์ขินีเป็นผู้บอกกล่าวให้ คนทั้งหลายจึงพากันไปหานางยักษ์ขินีขอให้พยากรณ์ให้ตนบ้าง คนทั้งหลายได้รับอุปการะจากนางยักษ์ขินีจนมีฐานะร่ำรวยไปตามๆ กัน ด้วยความสำนึกในบุญคุณ จึงพากันนำเอาเครื่องอุปโภคบริโภคอาหารการกินเครื่องใช้สังเวยเป็นอันมาก นางจึงนำมาทำเป็นสลากภัต โดยให้พระสงฆ์กระทำการจับตามเบอร์ด้วยหลักของอุปโลกนกรรม คือ ของที่ถวายมีทั้งของมีราคามาก ราคาน้อย พระสงฆ์องค์ใดได้ของมีค่าน้อยก็อย่าเสียใจ ให้ถือว่าเป็นโชคของตนดีหรือไม่ดี การถวายแบบจับสลากของนางยักษ์ขินีนี้นับเป็นครั้งแรกแห่งประเพณีทำบุญสลากภัต หรือทานสลากในสมัยพุทธกาลนั้นเอง.