ตำรวจ - ทหาร » (มีคลิป) ผบช.ภ.5 นำผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีร่วมแถลงข่าว “รวมพลังคนไทย ต้านภัยสแกมเมอร์” United Thailand Against Scammers ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

(มีคลิป) ผบช.ภ.5 นำผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีร่วมแถลงข่าว “รวมพลังคนไทย ต้านภัยสแกมเมอร์” United Thailand Against Scammers ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

10 พฤศจิกายน 2025
56   0

ผบช.ภ.5 นำผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีร่วมแถลงข่าว “รวมพลังคนไทย ต้านภัยสแกมเมอร์” United Thailand Against Scammers
ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!

10 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการแถลงข่าวการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี “รวมพลังคนไทย ต้านภัยสแกมเมอร์” United Thailand Against Scammers ณ ห้องประชุมแจ้งยอดสุข อาคารศูนย์ฝึกอบรม ตม. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย รอง ผบ.ตร. ประกอบด้วย พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์, พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง, พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร และผู้ช่วย ผบ.ตร., รองจเรตำรวจแห่งชาติ, ผู้บัญชาการและผู้แทนหน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมงาน

ตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ยกระดับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็น “วาระแห่งชาติ” และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้ยกระดับงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นงานสำคัญ ที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน และได้สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยในสังกัดระดมสรรพกำลังทำการป้องกันและปราบปราม ในทุกมิติอย่างเข้มข้น

ในการแถลงข่าวผลการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี “รวมพลังคนไทย ต้านภัยสแกมเมอร์ United Thailand Against Scammers” ได้แบ่งพื้นที่งานออกเป็น 5 โซน คือ
1. War Room (ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์)
2. การคืนเงินให้กับผู้เสียหาย (โครงการ Money Cash Back)
3. ผลการป้องกันปราบปรามที่มีความสำคัญและความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน
3.1) ผลการปฏิบัติที่สำคัญของกองบัญชาการต่างๆ ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
3.2) เครื่องมือในการประชาสัมพันธ์ “เตือนภัยไซเบอร์” เพื่อให้ประชาชนรู้เท่าทันภัยในโลกออนไลน์
3.3) ความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ
4. บรรยายพิเศษเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์
5. นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศเจตนารมณ์ร่วมกัน

ในการนี้ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 ได้นำผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในพื้นที่รับผิดชอบร่วมการแถลงข่าวดังกล่าวข้างต้น ดังนี้
1. เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2568 ศปอส.ภ.5 ได้ร่วมกันจับกุมกลุ่มคนจีนและพม่า รวม 18 คน แยกเป็นชาย 12 คน เป็นหญิง 6 คน พร้อมของกลางเป็นคอมพิวเตอร์แบบโน๊ตบุ๊ค จํานวน 10 เครื่อง โทรศัพท์มือถือจํานวน 42 เครื่อง โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมดว่า “สมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปเป็นซ่องโจรเพื่อร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น , ร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด

หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ ”และในจํานวนนี้ 6 คน ไม่ปรากฎเอกสารการเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มว่า “เป็นคนต่างด้าวอยู่ใดราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุดลง หรือถูกเพิกถอน เหตุเกิดบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

2. เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 00.05 น. บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ ถ.ธนาลัย ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
สภ.เมืองเชียงรายจับกุมผู้ต้องหา MR.Hu อายุ 35 ปี ภูมิลำเนา ประเทศจีน ของกลาง บัตรเอทีเอมจำนวน 2,060 ใบ, เงินสด 537,900 บาท, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และบัญชีรายการบัตรเอทีเอ็มจำนวน 1 ชุด

ความผิดฐาน มีบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบไว้ในครอบครองเพื่อนำออกใช้ ซึ่งน่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน, เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นๆ

3.การดำเนินการตามโครงการ
Money Cash Back กรณีเมื่อวันที่ 16 ก.ค.2568 สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ ทำการจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนพร้อมเงินสดของกลางจำนวน 2,680,000 บาท คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ จากการตรวจสอบพบว่า นายณัฐกร ใจเที่ยง ผู้เสียหายได้ถูกหลอกลวงโอนเงินเข้าบัญชีแก๊งมิจฉาชีพในเส้นเงินนี้(ที่ได้ตรวจยึด) มียอดความเสียหาย จำนวน 249,999 บาท โดยผู้เสียหายได้เดินทางเข้ารับเงินคืนจาก ผบ.ตร.ในการแถลง
ข่าว “รวมพลังคนไทย ต้านภัยสแกมเมอร์ United Thailand Against Scammers” ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

อนึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะยกระดับในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นและบังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในความมุ่งมั่นตั้งใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อปราบปรามและสกัดกั้นอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือกลุ่มแก๊งหลอกลวงออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ (สแกมเมอร์) รวมทั้งเครือข่ายการพนันออนไลน์ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อพี่น้องประชาชนและระบบเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในขณะนี้และขอขอบคุณหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงานรวมทั้งการแจ้งเบาะแสต่างๆ และร่วมเป็นกำลังสำคัญในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีด้วยดีตลอดมา

พวกเราทุกคนขอยืนยันว่าจะทำงานด้วยความโปร่งใส เข้มแข็ง และมุ่งมั่น เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกและความปลอดภัยในสังคมออนไลน์ของประชาชนทุกคน.