แพทย์ มช. รักษาหัวใจ ซ่อมลิ้นหัวใจไมตรัลรั่ว “โดยไม่ต้องผ่าตัด” สำเร็จรายแรกของภาคเหนือ ด้วยเทคนิค “MitraClip”
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!









คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจไมตรัลรั่ว (Mitral Regurgitation) ด้วยเทคนิค Edge-to-Edge Transcatheter Repair (MitraClip) โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดหน้าอก นับเป็นเคสแรกของภาคเหนือ ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมการซ่อมแซมลิ้นหัวใจรูปแบบใหม่ ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว เจ็บน้อย และกลับบ้านได้ภายในเพียง 1-2 วัน



อ.พญ.ทรรศลักษณ์ ทองหงษ์ อาจารย์ประจำหน่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มช. กล่าวว่า “ภาวะลิ้นหัวใจไมตรัลรั่ว คือภาวะที่ลิ้นหัวใจไมตรัลระหว่างหัวใจห้องซ้ายบนและซ้ายล่างปิดไม่สนิท ทำให้เลือดไหลย้อนกลับไปยังห้องบนซ้ายทุกครั้งที่หัวใจบีบตัว หากรั่วเล็กน้อยอาจไม่แสดงอาการ แต่หากรั่วมากจะทำให้หัวใจทำงานหนัก ผู้ป่วยมักมีอาการเหนื่อย หายใจลำบาก หรือบวมที่ขาและเท้า”


เทคนิค MitraClip เป็นนวัตกรรมการรักษาที่ใช้คลิปขนาดเล็กหนีบลิ้นหัวใจไมตรัลทั้งสองด้านให้ปิดแนบกัน โดยสอดคลิปผ่านสายสวนจากหลอดเลือดดำบริเวณขาหนีบ แทนการผ่าตัดเปิดหน้าอก วิธีนี้ช่วยให้เลือดไม่ไหลย้อนกลับ ลดภาระการทำงานของหัวใจ และผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้รวดเร็วโดยไม่ต้องใช้เครื่องหัวใจและปอดเทียม


สำหรับเคสแรกนี้ เป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 85 ปี มีภาวะหัวใจวายเฉียบพลันและต้องใส่ท่อช่วยหายใจกว่า 10 วัน เนื่องจากเส้นเอ็นยึดลิ้นหัวใจฉีกขาด ส่งผลให้ลิ้นหัวใจรั่วอย่างรุนแรง ซึ่งด้วยอายุและโรคร่วมหลายโรค ผู้ป่วยรายนี้ไม่เหมาะกับการผ่าตัดใหญ่ ทีมแพทย์หัวใจโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่จึงตัดสินใจใช้เทคนิค MitraClip แทนการผ่าตัดเปิดหน้าอก


การรักษาใช้เวลาประมาณ 2–3 ชั่วโมง โดยใส่คลิปเพียง 2 ตัว หลังหัตถการ ผู้ป่วยสามารถถอดท่อช่วยหายใจได้ในวันถัดมา อาการเหนื่อยลดลงชัดเจน และมีแนวโน้มกลับบ้านได้ภายใน 1 สัปดาห์

“เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยสูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคร่วมมากจนไม่สามารถผ่าตัดเปิดหน้าอกได้ เพราะการผ่าตัดใหญ่มักใช้เวลาฟื้นตัวนานและมีความเสี่ยงสูง แต่ MitraClip ช่วยลดความเจ็บปวด แผลเล็ก และฟื้นตัวได้เร็วกว่าอย่างมาก” อ.พญ.ทรรศลักษณ์ กล่าว

เทคนิค MitraClip ได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกมากว่า 15 ปี โดยให้ผลการรักษาใกล้เคียงกับการผ่าตัดในผู้ป่วยที่เหมาะสม ปัจจุบันในประเทศไทยมีเพียงไม่กี่ศูนย์ที่สามารถทำหัตถการนี้ได้ เนื่องจากต้องอาศัยทีมแพทย์เฉพาะทาง เครื่องมือขั้นสูง และความชำนาญในการทำอัลตราซาวนด์หัวใจผ่านหลอดอาหารเพื่อใช้เป็น “ดวงตานำทาง” ระหว่างทำหัตถการ

ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็น ก้าวสำคัญของภาคเหนือ ในการนำเทคโนโลยี MitraClip มาช่วยรักษาผู้ป่วยลิ้นหัวใจไมตรัลรั่ว เพิ่มโอกาสให้ผู้สูงอายุที่มีข้อจำกัดด้านสุขภาพได้รับการรักษาที่ปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“กรณีนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้ผู้ป่วยอายุ 85 ปีที่มีภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน ก็สามารถกลับมาหายใจได้เองและฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หากได้รับการรักษาด้วยเทคนิคที่เหมาะสม” อ.พญ.ทรรศลักษณ์ ทองหงษ์ กล่าวทิ้งท้าย


ด้าน รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. กล่าวว่า “ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันถึง ความพร้อมและศักยภาพของคณะแพทยศาสตร์ มช.ในการนำเทคโนโลยีการรักษาโรคหัวใจที่ทันสมัยมาใช้จริงในผู้ป่วย เพิ่มโอกาสให้ผู้สูงอายุและผู้ที่มีข้อจำกัดในการผ่าตัด ได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาการแพทย์ไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนในอนาคต”.